Water Resistant vs Water Repellent vs Waterproof
ไม่มีครีมกันแดดตัวไหนสามารถกันน้ำได้ 100% ครับ ทั้ง Water Resistant หรือ Waterproof เมื่อครีมสัมผัสกับน้ำและเหงื่อล้วนถูกชะล้างออกจากผิวของเราได้ด้วยกันทั้งนั้น จำเป็นต้องเติมกันแดดซ้ำระหว่างวัน
คุณสมบัติกันน้ำ Water Resistant, Water Repellent และ Waterproof คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร ? หากต้องการเลือกครีมกันแดดสูตรกันน้ำกันเหงื่อ ควรพิจารณาจากปัจจัยใดบ้าง ? ติดตามได้ในบทความนี้ครับ
คลิกอ่านหัวข้อ Water Resistant vs Water Repellent vs Waterproof
Water Resistant คืออะไร ?
Water Resistant คือ มาตรฐานในการกันน้ำที่ต่ำที่สุดของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น นาฬิกาข้อมือ กระเป๋า เสื้อผ้า และเครื่องสำอางครับ ส่วนใหญ่จะสามารถทนต่อน้ำปริมาณไม่มาก เช่น เหงื่อ ละอองน้ำ ละอองฝน ก่อนน้ำจะทะลุผ่านพื้นผิว หรือทำให้ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ เสียหาย
ในกรณีของครีมกันแดดฉลาก Water Resistant เมื่อครีมสัมผัสกับน้ำและเหงื่อ ยังคงมีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวเต็มที่ และค่า SPF ไม่ลดลงในช่วงเวลาหนึ่งครับ ระยะเวลาที่ครีมแต่ละยี่ห้อสามารถทนน้ำได้จะแตกต่างกันออกไป แต่หากอ้างอิงตามข้อกำหนดของ U.S. FDA จะต้องอยู่ได้นาน 40 นาที
ครีมกันแดดแบบนี้สามารถใช้เป็น Skincare Routine ทาทุกวันก่อนแต่งหน้าไปทำงาน หรือทำกิจกรรมที่เหงื่อออกไม่มากได้ มักมีเนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบขาว ไม่เสี่ยงอุดตันผิว หากต้องการทำความสะอาด ใช้คลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอาง และโฟมล้างหน้าทั่วไปก็เพียงพอแล้วครับ
Water Repellent คืออะไร ?
Water Repellent คือ ประสิทธิภาพในการกันน้ำที่มากกว่า Water Resistant มักใช้กับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้า เช่น กระเป๋า ชุดเดินป่า โซฟา หรือเสื้อกันหนาว แต่ในเครื่องสำอางและครีมกันแดดสูตรกันน้ำจะไม่ใช้คำนี้ครับ
ผลิตภัณฑ์ที่มีฉลาก Water Repellent สามารถชะลอการซึมผ่านของน้ำได้ชั่วคราว โดยใช้เทคโนโลยีพิเศษในการทอเนื้อผ้า หรือเคลือบพื้นผิวด้วยสารที่ไม่ชอบน้ำ (Hydrophobic) เช่น น้ำมัน ไขมัน ขี้ผึ้ง เมื่อเปียกน้ำ หยดน้ำจะเกาะที่พื้นผิวของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ คล้ายกับปรากฏการณ์น้ำกลิ้งบนใบบัวครับ หากปล่อยทิ้งไว้ ไม่ทำความสะอาด น้ำที่ขังนาน ๆ ก็สามารถซึมเข้าไปในเนื้อผ้าได้เช่นกัน
Waterproof คืออะไร ?
Waterproof คือ ประสิทธิภาพสูงสุดในการกันน้ำ สามารถกันน้ำรั่วซึมได้ดี ทนต่อการแช่อยู่ในน้ำ มีน้ำขังอยู่บนพื้นผิว และฝนตกหนักได้ ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัตินี้ เช่น เสื้อกันฝน กระเป๋า ชุดเดินป่า วัสดุที่ใช้ทำโครงสร้างอาคาร หรือสีทาพื้นชั้นดาดฟ้า
ถ้าอ้างอิงตาม U.S. FDA จะไม่ระบุ Waterproof สำหรับครีมกันแดดครับ ที่ใช้ได้จะมีเพียง Water Resistant และ Very Water Resistant เท่านั้น ครีมกันแดดแบบ Waterproof จึงเป็นเพียงชื่อทางการค้าของครีมกันแดดแบบ Very Water Resistant ที่สามารถทนน้ำได้นาน 80 นาที
ครีมกันแดดกันน้ำ Very Water Resistant มักมีเนื้อค่อนข้างหนัก และทิ้งคราบขาว เสี่ยงเกิดการแพ้และผิวอุดตันได้ง่าย เช็ดทำความสะอาดยากครับ ต้องใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเช็ดล้างเครื่องสำอางแบบกันน้ำโดยเฉพาะ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรน้ำมัน ก่อนล้างด้วยโฟมล้างหน้า จึงเหมาะกับกิจกรรมทางน้ำ หรือกีฬากลางแจ้งที่เหงื่อออกมาก ๆ
Water Resistant กับ Waterproof ต่างกันยังไง ?
ความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสี UV เหมือนกันครับ แต่ต่างกันที่ระยะเวลา ที่ครีมกันแดดยังมีค่า SPF คงที่ เมื่อเหงื่อออกหรือผิวสัมผัสน้ำ หมอสรุปเป็นตารางเปรียบเทียบความแตกต่างของครีมกันแดด Water Resistant และ Very Water Resistant ให้ครับ
ระยะเวลาที่ครีมกันแดดสามารถทนน้ำได้ หมออ้างอิงจากเกณฑ์ของ U.S. FDA ครับ ซึ่งเกณฑ์เกี่ยวกับครีมกันแดดของสหรัฐอเมริกาเคร่งครัดกว่าที่ไทย เพราะจัดอยู่ในกลุ่มของยา แต่ที่ประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่มเครื่องสำอาง
ดังนั้น แนะนำให้อ่านฉลากของครีมกันแดดร่วมด้วยครับ ว่าครีมกันแดดยี่ห้อนั้น ๆ สามารถทนน้ำได้นานแค่ไหน และควรเติมทุกกี่ชั่วโมง เพื่อให้สามารถปกป้องผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ควรใช้กันแดด Water Resistant หรือ Waterproof แบบไหนดีกว่ากัน ?
การเลือกครีมกันแดด Water Resistant หรือ Very Water Resistant (Waterproof) ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยครับ เช่น กิจกรรมที่ทำ สุขภาพผิว และส่วนผสมอื่น ๆ ของครีม หมอจะลงรายละเอียดในหัวข้อถัดไป
วิธีเลือกซื้อครีมกันแดด Water Resistant
- การใช้งาน : ถ้าใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป ครีมกันแดด Water Resistant ก็เพียงพอแล้วครับ และอาจซื้อแบบ Very Water Resistant ติดบ้านไว้ใช้ในวันที่ต้องเล่นกีฬากลางแจ้ง ที่เหงื่อออกมาก ๆ หรือทำกิจกรรมทางน้ำ เช่น ตีกอล์ฟ ดำน้ำ หรือเล่นสงกรานต์
- สุขภาพผิว : หากมีผิวบอบบางแพ้ง่าย มีสิวอุดตัน จะเหมาะกับกันแดดแบบ Water Resistant ที่เนื้อบางเบา ไม่หนักหน้า ล้างทำความสะอาดง่าย ไม่เสี่ยงอุดตันผิว ในกรณีที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง อาจเพิ่มความถี่ในการเติมกันแดดแทนครับ
- ประสิทธิภาพในการปกป้องผิว : U.S. FDA แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดแบบ Broad Spectrum ที่สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างครอบคลุม และควรมีค่า SPF 15 ขึ้นไป เพื่อป้องกันผิวไม่ให้หมองคล้ำ ผิวหน้าโทรม แก่กว่าวัย และลดความเสี่ยงมะเร็งผิวหนังได้
- ค่า SPF และค่า PA : หากอยู่ภายในอาคารเป็นหลัก เจอแค่แสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือแสงแดดที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่าง ใช้ครีมกันแดด SPF 30 PA+++ ก็เพียงพอแล้วครับ แต่ถ้าทำกิจกรรมกลางแจ้งควรใช้ SPF 50 PA++++ ซึ่งเป็นค่าสูงสุด
- เลือกครีมที่มีส่วนผสมช่วยบำรุงผิว : ครีมกันแดดหลายยี่ห้อมีส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว เติมความชุ่มชื้น หรือเสริมเกราะให้ผิวแข็งแรง เช่น ว่านหางจระเข้ วิตามินอี กลีเซอรีน และไฮยาลูรอนิก แอซิด
ครีมกันแดดหน้า Water Resistant
Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream SPF 40 PA+++
Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream ครีมกันแดดสูตรกันน้ำกันเหงื่อ ค่า SPF 40 PA+++ ใช้ทาก่อนแต่งหน้าในทุกวัน หรือเติมระหว่างวันทุก 4 ชั่วโมง หลังทาสามารถออกแดดได้ทันที ไม่ต้องรอ ครีมกันแดดมีความอ่อนโยน เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย รวมถึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหลังทา
ทาง Dr. V Square ใช้สารกันแดดที่มีความคงตัว และมีประสิทธิภาพสูง นำเข้าจากเยอรมนี สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA, UVB, Blue Light และ IR ได้อย่างครอบคลุม มาพร้อมสาร Soothing Cooling นำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ ลดอาการระคายเคือง แสบร้อน หลังโดนแดด
สรุปเรื่อง Water Resistant, Water Repellent, Waterproof
Water Resistant, Water Repellent, Waterproof เป็นระดับความสามารถในการกันน้ำของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ครับ ในกรณีของครีมกันแดดจะมีเพียงค่า Water Resistant และ Very Water Resistant เท่านั้นตามประกาศของ U.S. FDA เพราะไม่มีกันแดดตัวไหนที่สามารถกันน้ำได้ 100%
หากมองหาครีมกันแดดที่ทนน้ำและเหงื่อได้นาน แนะนำให้เลือกประเภทที่เหมาะกับกิจกรรมที่ทำ และเติมกันแดดซ้ำตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนั้น ๆ เพื่อประสิทธิภาพในการปกป้องผิวอย่างเต็มที่
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- American Academy of Dermatology Association. (Apr 25, 2024). How to Decode Sunscreen Labels. American Academy of Dermatology Association. https://www.aad.org/public/everyday-care/sun-protection/shade-clothing-sunscreen/understand-sunscreen-labels
- U.S. Food & Drug Administration. (May 9, 2024). Tips to Stay Safe in the Sun: From Sunscreen to Sunglasses. U.S. Food & Drug Administration. https://www.fda.gov/consumers/consumer-updates/tips-stay-safe-sun-sunscreen-sunglasses
- U.S. Food & Drug Administration. (May 17, 2024). Sunscreen: How to Help Protect Your Skin from the Sun. U.S. Food & Drug Administration. https://www.fda.gov/drugs/understanding-over-counter-medicines/sunscreen-how-help-protect-your-skin-sun