ค่า UV Index คืออะไร ? มีกี่ระดับ ? ระดับไหนอันตรายที่สุด ?

ค่า UV Index คืออะไร

UV Index

ในแต่ละวันความเข้มข้นของรังสี UV ในแสงแดดมีความแตกต่างกันครับ โดยมักจะวัดค่าความเข้มข้นของรังสี UV ด้วย UV Index เพื่อวัดว่ารังสียูวีที่ส่องมายังโลกของเรา มีระดับความรุนแรงแค่ไหน ?

บทความนี้หมอได้สรุปมาให้แล้วครับ ว่าค่า UV Index คืออะไร ? มีกี่ระดับ ? ดัชนีรังสีอัลตราไวโอเลตของแดดประเทศไทยเท่าไหร่ ? สามารถเช็กค่า UV Index ได้จากที่ไหน ? ติดตามได้ผ่านบทความนี้ครับ

คลิกอ่านหัวข้อ UV Index


ค่า UV Index คืออะไร ?

UV Index (ดัชนีรังสีอัลตราไวโอเลต) คือ ค่าสำหรับใช้วัดความเข้มข้นของรังสีอัลตราไวโอเลต (รังสี UV) ในแต่ละพื้นที่ ว่า ณ เวลานั้น ๆ ความแรงของแดดที่ส่องมายังโลกรุนแรงระดับไหน

การวัดผลค่า UV Index ถูกคิดค้นโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวแคนาดาเมื่อปี ค.ศ. 1992 และต่อมาในปี ค.ศ. 1994 National Weather Service (NWS) และ U.S. Environmental Protection Agency (EPA) ได้นำมาปรับใช้ เพื่อให้ประชาชนทราบระดับความรุนแรงของรังสี UV ล่วงหน้า จะได้เตรียมวิธีการป้องกันตัวจากความเข้มข้นของรังสี UV


แดดประเทศไทยมีค่า UV Index เท่าไหร่ ?

สำหรับแสงแดดประเทศไทย มีความเข้มข้น UV Index เฉลี่ยที่ 11-12 ถือว่าอยู่ในระดับสีม่วง ที่มีการแผ่รังสี UVA / UVB ในระดับสูงจัด (Extrem) ตามหน่วยวัด UV Index ที่ทาง WHO หรือ องค์การอนามัยโลกใช้วัดครับ

ฉะนั้นแล้วการใช้ชีวิตประจำวันในประเทศไทยที่มีค่า UV Index ในระดับสูงจัด จึงจำเป็นต้องปกป้องผิวจากรังสี UV ในแสงแดดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ผิวถูกรังสี UV ทำร้าย จนเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมา ที่สำคัญยังช่วยลดโอกาสเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง (Skin Cancer) ในระยะยาวได้ครับ


UV Index มีกี่ระดับ ?

ค่า UV Index แบ่งออกเป็น 6 ระดับครับ โดยอ้างอิงจากค่าวัดมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO)

ความเข้มของ UV Index แต่ละระดับ มีรายละเอียดดังนี้

UV Indexระดับสีระดับความรุนแรง
1-2สีเขียวLow (ต่ำ)
3-5สีเหลืองModerate (ปานกลาง)
6-7สีส้มHigh (สูง)
8-10สีแดงVery High (สูงมาก)
11+สีม่วงExtrem (สูงจัด)

ตารางแสดงระดับความรุนแรง UV Index ระดับต่าง ๆ

สีเขียว 1-2 ระดับต่ำ (Low)

UV Index ค่า 1-2 มีความเข้มข้นรังสี UV ระดับต่ำ มีความสามารถในการแผ่รังสีน้อย

เมื่อเผชิญแสงแดดในช่วงที่ UV Index ต่ำ ร่างกายจะไม่ได้รับผลกระทบจากรังสี UV ครับ มักพบ UV Index ระดับนี้ตอนเช้าช่วงเวลา 07.00 น. เหมาะมาก ๆ สำหรับการออกกำลังกายช่วงเช้า หรือตากแดดเพื่อเพิ่มวิตามิน D ให้ร่างกาย

สีเหลือง 3-5 ระดับปานกลาง (Moderate)

UV Index ที่อยู่ในช่วง 3-5.9 มีความเข้มข้นรังสี UV ระดับปานกลาง มักพบได้บ่อยในช่วงเวลา 08.00 น. และ 16.00 น. ค่า UV Index ระดับนี้ปลอดภัยครับ และไม่ส่งผลกระทบใด ๆ กับร่างกาย เมื่อสัมผัสแสงแดด 2 ช่วงเวลานี้

สีส้ม 6-7 ระดับรุนแรงสูง (High)

UV Index ในช่วง 6-7.9 เริ่มมีระดับความรุนแรงสูงครับ และพบได้บ่อยเมื่อต้องเผชิญแสงแดดในช่วงเวลา 09.00 น. – 15.00 น. หากเป็นไปได้หมออยากแนะนำให้เลี่ยงแดดช่วงเวลาดังกล่าว ในกรณีที่ต้องออกแดดควรปกป้องผิวจากแสงแดดให้ถูกวิธีอยู่เสมอครับ

สีแดง 8-10 รุนแรงสูงมาก (Very High)

UV Index ตั้งแต่ช่วง 8-10 มีความเข้มข้นรังสี UV ระดับสูงมาก และมีผลกระทบต่อร่างกายหากผิวไม่ได้รับการปกป้องอย่างดีพอ ช่วงเวลาที่พบค่า UV Index ได้บ่อย คือ เวลา 14.00 น. – 15.00 น.

สีม่วง 11+ รุนแรงระดับสูงจัด (Extrem)

UV Index ตั้งแต่ 11+ ขึ้นไป พบได้บ่อยในช่วงเวลา 11.00 น. – 13.00 น. โดยรังสี UV ที่แผ่ออกมาจะมีความเข้มข้น และรุนแรงมากที่สุด

หากไม่มีการปกป้องผิวเมื่อต้องเผชิญแดดช่วงเวลานี้ จะทำให้เกิดผลกระทบต่อผิวมากที่สุด เช่น ผิวไหม้แดดจากรังสี UVB และในระยะยาวอาจเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอยก่อนวัยได้ ซึ่งเป็นผลมาจากรังสี UVA ครับ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ผลจาก UVA และ UVB ทำร้ายผิวอย่างไร ? พร้อมวิธีป้องกันรังสียูวีในแสงแดด


UV Index ระดับไหนอันตราย ? ส่งผลต่อผิวอย่างไร ?

ค่า UV Index ตั้งแต่ระดับ 6+ ขึ้นไป เริ่มส่งผลกระทบต่อผิวแล้วครับ หากไม่มีการปกป้องผิวจากรังสี UV อย่างดีพอ โดย UV Index ที่มีความเข้มข้นสูง ล้วนส่งผลต่อผิว ดังนี้

UV Index ระดับไหนอันตราย
ค่า UV Index ความรุนแรงระดับ 6+ ขึ้นไป เริ่มส่งผลทำให้เกิดปัญหาผิว
  • ผิวไหม้แดด (Sunburn) มีสาเหตุจากรังสี UVB ทำให้ผิวเริ่มแดง หรือรู้สึกแสบร้อนผิวขณะออกแดด หลังจากนั้นอาจมีอาการผิวไหม้ ผิวลอกตามมาได้ครับ บางรายที่ผิวไหม้แดดรุนแรงอาจถึงขั้นไข้ขึ้น มีตุ่มน้ำพุพองขึ้นบริเวณผิวที่โดนแดดได้
  • ฝ้าแดด มีลักษณะเป็นปื้นสีน้ำตาล โดยรังสี UVA ในแสงแดดเป็นศัตรูตัวฉกาจของการเกิดฝ้าแดดครับ ซึ่งรังสี UVA จะกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ในเซลล์ใต้ผิวหนัง ให้ผลิตเม็ดสีออกมามากกว่าปกติ จึงส่งผลทำให้ผิวบริเวณนั้นดูเข้มขึ้น
  • กระแดด มีลักษณะคล้ายกับน้ำหมึกหยดลงบนผิว โดยมีรังสี UVA เป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดกระแดดครับ และมักพบได้ในช่วงวัย 40 ปีขึ้นไป ทั้งเพศชายและหญิง
  • ริ้วรอยก่อนวัย เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยตีนกา ฯลฯ มีต้นเหตุมาจากรังสี UVA เช่นเดียวกันครับ แม้ว่า UV Index จะไม่ส่งผลทันที แต่ในระยะยาวผิวที่ไม่ทากันแดด มีโอกาสการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้
  • กระตุ้นการเกิดสิวอักเสบ จากสิวอุดตันเป็นสิวอักเสบได้ เพราะแสงแดดที่มี UV Index สูง จะกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมาครับ เมื่อมีผิวหน้ามันและมีสิวอุดตันเป็นทุนเดิม มีโอกาสทำให้หน้าเป็นสิวอักเสบได้ครับ
  • ผิวหมองคล้ำ หน้าแลดูโทรม ล้วนเป็นมาจากรังสี UV ครับ ยิ่งเผชิญแสงแดดในช่วงที่มีความเข้มข้นของ UV Index สูง โดยเฉพาะช่วงเที่ยงวัน ก็ยิ่งมีโอกาสทำให้ผิวหมองคล้ำ และหน้าโทรมได้ครับ เมื่อปกป้องผิวจากแสงแดดไม่ดีพอ
  • โรคเกี่ยวกับดวงตา เช่น ต้อลม ต้อเนื้อ ตาไวต่อแสง ฯลฯ มีผลมาจากรังสี UV ในแสงแดดครับ ยิ่งช่วงไหนที่มี UV Index สูง หากไม่สวมใส่แว่นกันแดด UV ในระยะยาวมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคเกี่ยวกับดวงตาได้ครับ
  • โรคมะเร็งผิวหนัง มีสาเหตุหลักมาจากรังสี UV ในแสงแดด ที่มีความเข้มข้นของ UV Index สูง ผิวที่ไม่ได้ทากันแดดเป็นประจำ ในระยะยาวจึงมีโอกาสเสี่ยงเป็นผิวหนังได้มากกว่าคนที่ทาครีมกันแดด

แนวทางป้องกันผิวจาก UV Index แต่ละระดับ

แนวทางการปกป้องผิวจาก UV Index แต่ละระดับ มีดังนี้

UV INDEX รุนแรงระดับไหน ป้องกันอย่างไร

ควรใช้ครีมกันแดดค่า SPF และ ค่า PA เท่าไหร่ ป้องกัน UV Index

สำหรับการปกป้องผิวจากแสงแดดเมืองไทย ที่มีค่า UV Index ระดับสูงจัด หมอแนะนำให้ใช้ครีมกันแดดค่า SPF 30 ขึ้นไป และมีค่า PA 3+ ขึ้นไป หรือมีค่า PPD มากกว่า 10 เช่น

  • SPF 30 PA+++
  • SPF 30 PA++++
  • SPF 50 PA+++
  • SPF 50 PA++++
  • SPF 50+ PA+++
  • SPF 50+ PA++++

การใช้ครีมกันแดด SPF 30 ป้องกัน UV Index ถือว่าเพียงพอแล้วครับ เพราะให้การปกป้องผิวจากรังสี UVB มากกว่าผิวปกติที่ไม่ทากันแดดได้ 96.7% ในขณะที่กันแดด SPF 50 ปกป้องผิวได้ 98% ค่าความต่างเฉลี่ยประมาณ 1.3% ไม่ได้มีผลมากขนาดนั้นครับ จึงสามารถใช้กันแดดที่มีค่า SPF เริ่มต้นที่ 30 ได้

กันแดดป้องกัน UV Index ต้องมีค่าเท่าไหร่
การทากันแดด SPF 30+ PA 3+ ขึ้นไป เพียงพอกับการปกป้องผิวจาก UV Index

ส่วนการใช้กันแดดปกป้องผิวจาก UV Index ที่มีค่า SPF 50+ ขึ้นไป ต้องระมัดระวังอาการระคายเคืองครับ เพราะมีความเข้มข้นของสารป้องกันรังสี UVB ในครีมกันแดดสูง จึงควรทดสอบอาการแพ้ระคายเคืองก่อนใช้เสมอ

หมอขอสรุปแนวทางการเลือกกันแดด ป้องกัน UV Index เพิ่ม ดังนี้

  • ครีมกันแดดควรมีค่า SPF 30+ และ ค่า PA 3+ ขึ้นไป
  • มีส่วนผสมที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหลังทา เช่น กลีเซอรีน (Glycerin) กรดไฮยาลูโรนิก ฯลฯ
  • ปกป้องผิวได้ทุกคลื่นรังสี ทั้ง UVA 1, UVA 2, UVB, Blue light และอินฟราเรด
  • มีส่วนผสมช่วยปลอบประโลมผิว ลดโอกาสการเกิดผิวไหม้แดด เช่น Aloe Vera, Cooling Soothing ฯลฯ
  • เนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย แห้งซึมเข้าผิวไว เข้ากับสภาพผิว
  • กันแดดได้ทั้ง 3 กระบวนการ ลดการสะท้อน การกระเจิง และการดูดซับ
  • ไม่มีสารอันตราย ใช้แล้วไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ไม่มีส่วนผสมน้ำมัน (Non-Comedogenic)
  • มีงานวิจัยรองรับ และผ่านการทดสอบการใช้งานจริง
  • หลีกเลี่ยงกันแดดประเภท Chemical ควรใช้เป็น Physical หรือ Hybrid เพื่อป้องกันการระคายเคือง

ครีมกันแดดทาหน้า ปกป้องผิวจาก UV Index
Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream SPF 40 PA+++

กันแดด Dr. V Square ป้องกัน UV Index

ครีมกันแดดทาหน้า Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream ช่วยปกป้องผิวจาก UV Index ได้ทุกคลื่นรังสี ไม่ว่าจะเป็น UVA 1, UVA2, UVB, UVC, Blue light และ Infrared ตัวนี้เป็น Hybrid Sunscreen มาพร้อมค่า SPF 40 PA+++ ที่กันแดดได้ 3 กระบวนการภายในเนื้อเดียว ป้องกันการสะท้อน การกระเจิง และการดูดซับ จากรังสี UV ในแสงแดดได้

ซึ่งครีมกันแดด Dr. V Square สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว แม้มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เนื้อสัมผัสเป็นแบบครีมบางเบา เกลี่ยง่าย แห้งซึมเข้าผิวไว มีสารสกัด Soothing Cooling นำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ ที่มีส่วนช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการแสบผิว และผิวแดง ขณะที่ทำกิจกรรมกลางแดดในช่วงที่มีค่า UV Index สูงครับ


ตรวจเช็กค่า UV Index จากที่ไหนได้บ้าง ?

สามารถตรวจเช็กค่า UV Index ในเมืองไทยได้ที่ ‘ศูนย์โอโซนและรังสี

โดยจะมีการระบุค่าดัชนีรังสี UV สูงสุด 25 จังหวัด แม้จะไม่ได้ครบทุกจังหวัดในไทย แต่สามารถเช็กค่า UV Index ได้จากจังหวัดที่ใกล้เคียงที่สุดครับ

นอกจากนี้ยังแสดงระดับ UV Index ตามช่วงเวลาต่าง ๆ ทำให้ทราบเพิ่มเติมครับ ว่าช่วงเวลาไหนที่ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดจัด เพื่อปกป้องผิวหน้า ผิวกาย จากรังสี UV


สรุปเรื่องค่า UV Index

UV Index คือ ค่าวัดความเข้มข้นของรังสี UV ว่ามีระดับความรุนแรงมาก-น้อยแค่ไหน ซึ่งแดดเมืองไทยมีค่า UV Index เฉลี่ยที่ 11-12 ถือว่าเป็นระดับสูงจัด ที่จำเป็นต้องปกป้องผิวจากแสงแดดให้ถูกวิธีเสมอ

วิธีที่ง่ายที่สุด คือ การทาครีมกันแดด SPF 30+ PA 3+ เป็นประจำทุกวัน พร้อมทั้งหมั่นทาครีมกันแดดซ้ำระหว่างวันเสมอ ร่วมกับการสวมใส่อุปกรณ์กันแดด ก็จะช่วยปกป้องผิวจาก UV Index ที่มีความรุนแรงสูงได้ครับ และยังช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวในระยะยาวได้เช่นกัน


แหล่งข้อมูลอ้างอิง