แสงแดด มีประโยชน์ – อันตรายอะไรบ้าง ? ส่งผลต่อผิวอย่างไร ?

ประโยชน์ และ อันตรายจากแสงแดด

แสงแดด

แม้ว่า แสงแดด จะมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ช่วยกระตุ้นการผลิตวิตามินดี และ เซโรโทนิน แต่หากเราได้รับแสงแดดที่มีรังสี UV มากเกินไป โดยไม่มีการปกป้องผิว จะทำให้ผิวเราได้รับอันตรายจากแสงแดดครับ

ในบทความนี้หมอได้สรุปมาแล้ว ว่าแสงแดดมีรังสี UV อะไรบ้าง แสงแดดมีประโยชน์อย่างไร และหากไม่มีการป้องกันผิวจากแสงแดด จะเป็นอันตรายต่อผิวเรายังไง ? ผู้อ่านติดตามได้ในบทความนี้เลยครับ

คลิกอ่านหัวข้อที่สนใจเกี่ยวกับแสงแดด


แสงแดด คืออะไร ?

แสงแดด คือ คลื่นความถี่ของรังสี มีทั้งแบบที่เรามองเห็น และมองไม่เห็น นิยมเรียกรังสีเหล่านี้ว่า ‘รังสีอัลตราไวโอเลต หรือ รังสี UV’ ที่มีความยาวคลื่นสั้น อยู่ในช่วง 280-400 นาโนเมตร นอกจากนี้ยังมีแสงอินฟราเรด ที่มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 700 นาโนเมตร – 1 มม.

โดยรังสียูวี และ แสงอินฟราเรดในแสงแดด สามารถทะลุเข้าสู่ชั้นผิวจนทำร้ายผิวหรือดวงตาได้ครับ แต่จะส่งผลมาก-น้อยแค่ไหน จะขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของแสงในช่วงเวลาต่าง ๆ ที่เราเจอแสงแดดในแต่ละวัน

แสงแดดเต็มไปด้วยรังสียูวี
แสงแดด มีรังสี UVA UVB และ UVC

แสงแดด มีรังสี UV อะไรบ้าง ?

หลัก ๆ แล้ว แสงแดด จะมีรังสี UV อยู่ 3 ประเภท คือ รังสี UVA UVB และ UVC โดยแต่ละตัวจะมีความแตกต่างกันดังนี้

  • รังสียูวีเอ (UVA) : มีคลื่นความยาว 320-400 นาโนมิเตอร์ ซึ่งเป็นคลื่นรังสีที่ยาวที่สุด มีส่วนทำลายความยืดหยุ่นของผิว และสะสมเป็นอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวเหี่ยวย่นได้
  • รังสียูวีบี (UVB) : มีคลื่นความยาว 290-300 นาโนมิเตอร์ ไม่สามารถทำลายผิวชั้นในได้ แต่จะทำร้ายเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแห้ง หยาบกร้าน กักเก็บความชุ่มชื้นได้น้อย และทำให้ผิวไหม้แดด
  • รังสียูวีซี (UVC) : มีคลื่นความถี่สั้นที่สุด มักถูกบล็อกด้วยชั้นบรรยากาศของโลก ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง แต่หากชั้นบรรยากาศถูกทำลายลง รังสี UVC จะสามารถทะลุมายังโลกได้ และอาจทำลายผิวเราได้เช่นกัน

นอกจากนี้ในแสงแดดยังมีคลื่นรังสีอื่น ๆ อย่างแสงสีฟ้า หรือแสงอินฟราเรด อยู่ด้วยครับ ซึ่งล้วนส่งผลต่อการเกิดปัญหาผิวได้เช่นกัน หมอได้เขียนสรุปข้อมูลไว้ในบทความ แสงแดด มีรังสีอะไรบ้าง ? ทำร้ายผิวได้อย่างไร ? รังสีไหนอันตรายที่สุด ?


อันตรายจากแสงแดด มีอะไรบ้าง ?

โทษจากแสงแดด หรือ อันตรายจากแสงแดด ส่งผลต่อผิวหนังและดวงตาของเราครับ ทำให้เกิดปัญหาผิวหนัง และโรคทางสายตาที่เป็นอันตรายได้ ดังนี้

ผิวไหม้แดด

ผิวไหม้แดด เมื่อเจอแสงแดดจัด
ผิวไหม้แดด เมื่อเจอแสงแดดจัด

ผิวไหม้แดด (Sunburn) เป็นปัญหาผิวหนังที่พบเจอบ่อยครับ มักเกิดจากการเผชิญแสงแดดจัดเป็นเวลานาน ลักษณะอาการ คือ ผิวจะมีสีแดง รู้สึกระคายเคือง บางรายจะมีอาการเจ็บ แสบร้อน ผิวลอกเป็นขุย และมีผิวพุพอง โดยเกิดหลังจากผิวโดนแสงแดดไปแล้วประมาณ 5 ชั่วโมง จะไม่แสดงอาการทันที

หน้าเป็นฝ้า กระ จุดด่างดำ

แสงแดดทำให้หน้าเป็นฝ้า กระ จุดด่างดำ
หน้าเป็นฝ้าจากแสงแดด

แสงแดด เป็นปัจจัยกระตุ้นการเกิดฝ้า กระ รวมถึงจุดด่างดำบริเวณผิวหน้า มักจะพบฝ้าแดด หรือ กระแดดได้บ่อยในเพศหญิง ที่มีอายุ 30-40 ปีขึ้นไป โดยจะมีผื่นสีน้ำตาลที่บริเวณใบหน้า เช่น คาง หน้าผาก แก้ม ซึ่งเป็นจุดที่เผชิญแสงแดดบ่อย

หน้าเป็นสิว

แสงแดดเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว
​​แสงแดดเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว

รังสี UV จากแสงแดด เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิวประเภทต่าง ๆ เช่น สิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวผด เมื่อรังสี UV กระทบเข้าสู่ผิว จะทำให้แบคทีเรียที่อยู่ในรูขุมขนรับแสง UV จนเกิดการกระตุ้นการอักเสบที่บริเวณรูขุมขน ยิ่งใครที่เหงื่อออกง่าย ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสการเกิดสิวผด และสิวอุดตันได้เช่นกัน

โรคทางดวงตา

แสงแดดทำให้เกิดโรคทางดวงตา
ดวงตาเป็นต้อ จากการโดนแสงยูวีต่อเนื่อง

แสงแดดที่กระทบกับสายตาโดยตรง จะมีส่วนช่วยเร่งการเกิดต้อชนิดต่าง ๆ เช่น ต้อลม ต้อเนื้อ และต้อกระจก ซึ่งมักจะพบต้อจากแสงแดดได้มากในกลุ่มผู้สูงอายุ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : โรคที่เกิดจากแสงแดด มีอะไรบ้าง ? ภัยร้ายรังสี UV ที่ทำร้ายผิวหนัง

มะเร็งผิวหนัง

มะเร็งผิวหนังจากแสงแดด
ผิวที่เป็นมะเร็งผิวหนัง จากการสัมผัสกับแสงแดดต่อเนื่องนานหลายปี

มะเร็งผิวหนัง (Skin Cancer) มักเกิดกับบริเวณผิวหนัง ที่สัมผัสกับแสงแดดสะสมมาเป็นระยะเวลานาน เช่น ใบหน้า หู และหลังมือ โดยรังสี UV จะทะลุเข้าชั้นผิวแล้วไปทำลาย DNA (Genotoxic) จนทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังในที่สุดครับ

โรคลมแดด 

แสงแดดทำให้เกิดโรคลมแดด
โดนแสงแดดนานเกินไป เสี่ยงเป็นโรคลมแดด

โรคลมแดด (Heat Stroke) มักเกิดขึ้นเมื่อร่างกายของเรา มีอุณหภูมิความร้อนสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ซึ่งการเผชิญแสงแดดจัดเป็นเวลานานติดต่อกันหลายชั่วโมง มีส่วนทำให้โรคลมแดดกำเริบได้ครับ ยิ่งช่วงฤดูร้อน ก็ยิ่งพบโรคนี้ได้บ่อยเมื่อเจอแสงแดดจัด


ประโยชน์แสงแดด มีอะไรบ้าง ?

แสงแดด ไม่ได้มีแต่โทษอย่างเดียวครับ แต่ยังมีข้อดีหรือประโยชน์ด้วยเช่นกัน โดยหมอได้สรุปประโยชน์ของแสงแดด ไว้ดังนี้

สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

เมื่อร่างกายเราได้รับวิตามินดีจากแสงแดด ตัววิตามินดีจะเข้าไปเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาวให้แข็งแรง จนทำงานได้ดียิ่งขึ้นครับ

ซึ่งการที่เม็ดเลือดขาวแข็งแรง จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายแข็งแรงตามไปด้วย ส่งผลให้ร่างกายต้านทานเชื้อโรคต่าง ๆ ที่จะเข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้น

ยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนที่ทำลายแคลเซียม

ตัววิตามินดีที่ได้รับจากแสงแดดในช่วงเช้า เป็นวิตามินดีตัวสำคัญ ที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีมากยิ่งขึ้น ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน

เพราะวิตามินดีจากแสงแดด จะยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนพาราไทรอยด์ (Parathyroid) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จะไปสลายแคลเซียมออกจากกระดูก

แสงแดดกระตุ้นการผลิตเซโรโทนิน

กระตุ้นการผลิตเซโรโทนิน

เซโรโทนิน (Serotonin) เป็นสารเคมีในสมองที่ส่งผลต่อการคิด การควบคุมอารมณ์ การรับแสงแดดช่วงเช้า จะช่วยยกระดับอารมณ์ของเราให้รู้สึกมีความสุขขึ้น ป้องกันอาการซึมเศร้าที่มาจากฤดูกาล (Seasonal Affective Disorder : SAD) 

โดยจำนวนการผลิตเซโรโทนินในวันนั้น ๆ มีผลมาจากปริมาณแสงแดดที่ร่างกายเราได้รับในแต่ละวัน ซึ่งระดับเซโรโทนินในสมอง จะสูงในวันที่ท้องฟ้าสดใส มากกว่าวันที่มีเมฆหรือวันที่ฟ้าครึ้ม

ยกระดับสุขภาพจิตใจ

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว ว่าแสงแดดมีส่วนช่วยกระตุ้นการผลิตเซโรโทนิน การรับแสงแดดยามเช้าเป็นประจำทุกวัน มีส่วนช่วยให้เรารู้สึกอารมณ์ดีและรู้สึกเบิกบานตลอดวัน

เมื่อร่างกายได้รับสารเซโรโทนินเป็นปกติ นาฬิกาชีวิตของร่างกายเรา (Body Clock) จะทำงานได้ดีขึ้นครับ ทำให้นอนหลับง่ายและหลับสนิทมากขึ้นตามไปด้วย

รับแสงแดดตอนเช้า เติมวิตามินดี

รับแสงแดดตอนเช้า เติมวิตามินดี กี่โมงดีที่สุด ?

การรับวิตามินจากแสงแดดอย่างวิตามินดี ควรรับตอนแสงแดดอ่อน ๆ ในช่วงเช้าประมาณ 06.00 น. – 08.00 น. เป็นประจำทุกวัน หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง วันละ 10-15 นาที 

เพราะร่างกายจะสังเคราะห์ Vitamin D3 จากรังสี UVB ซึ่งเป็นรังสีที่มีคลื่นสั้น ซึ่งคลื่นรังสียูวีบีจะตกกระทบกับผิวหนังชั้นนอกสุดอย่างชั้นหนังกำพร้า ทำให้การรับวิตามินดีจากแสงแดดอ่อนในช่วงเช้านั้นดีสุดครับ


วิธีปกป้องผิวจากแสงแดด

  • หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด เวลา 09.00 น. – 16.00 น.

ช่วงเวลา 10.00 น. – 16.00 น. เป็นช่วงที่แสงแดดมีรังสี UVB เข้มข้นสูง การเผชิญแสงแดดในช่วงนี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน จะเสี่ยงต่อการเกิดอาการผิวไหม้แดดได้ง่าย

คลิกอ่านเพิ่มเติม : แดดช่วงไหนอันตราย รุนแรงที่สุด ? ควรปกป้องผิวอย่างไรให้ปลอดภัย ?

  • แต่งกายปกป้องผิวให้มิดชิด

วิธีป้องกันแดดด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าที่หนา สีเข้ม เช่น สีดำ สีน้ำตาล สีเทา จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดจัดได้ครับ แต่แน่นอนว่าจะต้องรู้สึกร้อนขึ้นกว่าการสวมใส่เสื้อผ้าบาง ๆ เพื่อป้องกันการเกิดโรคลมแดด หมอแนะนำว่าให้หมั่นจิบน้ำระหว่างวันเพิ่มด้วยครับ

  • ทาครีมกันแดดหน้าและตัวเป็นประจำ

ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือออกไปทำกิจกรรมข้างนอก เราควรทาครีมกันแดดหน้าและตัวเป็นประจำครับ แม้ว่าอยู่บ้านรังสี UV ก็สามารถทะลุผ่านวัตถุแล้วทำร้ายชั้นผิวหนังเราได้

ครีมกันแดดทาหน้า และ ครีมกันแดดทาตัว ที่มีประสิทธิภาพการปกป้องผิวจากแสงแดด ควรมีค่า SPF30 ขึ้นไป มีคุณสมบัติกันน้ำ กันเหงื่อ เนื้อครีมเกลี่ยง่าย กันรังสี UVA, UVB, Blue Light และ Infrared ได้อย่างครอบคลุมครับ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ค่า SPF คืออะไร ปกป้องผิวได้นานไหม เลือกใช้ค่าเท่าไหร่ดีที่สุด ?

ครีมกันแดดปกป้องผิวจากแสงแดด

DR. V SQUARE UV ABC SUNSCREEN CREAM SPF40 PA+++

DR. V SQUARE Sunscreen Cream

ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA, UVB, แสงอินฟราเรด (Infrared) และแสงสีฟ้า (Blue Light) ได้อย่างครอบคลุม เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้มีผิวมัน ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง หรือผิวผสมครับ

ตัวเนื้อครีมกันแดด  Dr. V Square เกลี่ยง่าย มีเนื้อสัมผัสบางเบา หลังทาแล้วจะไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะผิว พร้อมทั้งยังมีส่วนผสมจากกลีเซอรีน (Glycerin) ที่มีส่วนดึงน้ำเข้าสู่ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น

  • กางร่มเมื่อเจอแสงแดดจัด

เมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมข้างนอก หมอแนะนำว่าควรหาร่มกัน UV คู่ใจพกติดมือไปด้วยครับ การกางร่มที่เคลือบสารกันรังสี UV จะช่วยปกป้องผิวและดวงตา ไม่ให้โดนแสงแดดโดยตรง 

  • ใส่แว่นกันแดดปกป้องผิวรอบดวงตา

การใส่แว่นกันแดดจะช่วยปกป้องผิวรอบดวงตา ไม่ให้เผชิญกับแสงแดดโดยตรง เพราะการที่ดวงตาเจอแสงแดดจัดเป็นระยะนานหลายปี จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดต้อชนิดต่าง ๆ รวมถึงเกิดอาการตาอักเสบได้ครับ

ความเข้มข้นของแสงแดด

แสงแดด ส่งผลต่อระดับความแรงของรังสี UV หรือไม่ ?

ความเข้มข้นของแสงแดด จะส่งผลต่อระดับความรุนแรงของรังสี UV ตลอดทั้งวันและทุกวันครับ โดยรังสี UV จะสูงสุดในช่วงเวลาเที่ยงวัน (12.00 น.) เพราะเป็นเวลาที่พระอาทิตย์ตั้งฉากกับศีรษะของเราโดยตรง ยิ่งในช่วงฤดูร้อน ระดับความรุนแรงของรังสี UV ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยครับ


สรุปเรื่องแสงแดด

แสงแดด ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตวิตามินดี รวมถึงกระตุ้นร่างกายให้เตรียมพร้อมเริ่มวันใหม่ แต่หากไม่ปกป้องผิวจากแสงแดด ด้วยการทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านอย่างถูกวิธี ก็จะเป็นอันตรายต่อผิวหนังในระยะยาว เช่น ฝ้าแดด กระแดด ผิวหนังไม้ มะเร็งผิวหนัง ฯลฯ

การป้องกันผิวหนังจากแสงแดดที่ดีที่สุด หมอขอแนะนำว่าให้ทาครีมกันแดดทาตัว และครีมกันแดดทาหน้า ที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เป็นประจำทุกวัน แม้ว่าจะอยู่แค่บ้านเฉย ๆ ก็ควรทาป้องกัน เพราะแสงแดดสามารถทะลุผ่านวัตถุแล้วมาทำร้ายชั้นผิวหนังเราได้ครับ