Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร

Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร นอกจากจะเป็นเรื่องของชื่อเรียกที่หลายคนคุ้นเคย ยังมีความแตกต่างที่สำคัญ ในด้านกลไกการป้องกันรังสี UV โดยตรง ทั้งในแง่ของการสะท้อน ดูดซับ และประเภทของส่วนผสมที่ใช้

ในบทความนี้ หมอจะพาทุกคนมาแยกแยะให้ชัดเจนว่า Sunblock คืออะไร ? Sunscreen คืออะไร ? ทั้งสองมีความต่างกันอย่างไร ? และควรเลือกใช้แบบไหนให้เหมาะกับผิว ? รวมถึงคำแนะนำในการเลือกครีมกันแดดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในชีวิตประจำวันครับ

คลิกอ่านหัวข้อ Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร


Sunblock กับ Sunscreen คืออะไร ?

เพื่อให้เข้าใจว่า Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร สิ่งแรกที่ควรรู้คือความหมายของแต่ละคำ เพราะแม้จะมีเป้าหมายเหมือนกันคือป้องกันแสงแดด แต่ชนิดของสารที่ใช้ และการจัดประเภทผลิตภัณฑ์นั้นต่างกัน โดยรายละเอียดของแต่ละแบบมีดังนี้ครับ

Sunblock คืออะไร ?

Sunblock (ซันบล็อก) คือ คำที่ใช้เรียกผลิตภัณฑ์กันแดดประเภทหนึ่ง ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม Physical Sunscreen หรือ ครีมกันแดดชนิดกายภาพ

จุดเด่นคือไม่ใช้สารเคมีเป็นหลัก แต่ใช้สารแร่ธรรมชาติ เช่น Zinc Oxide และ Titanium Dioxide เป็นส่วนผสมหลัก โดยทั่วไปจะเหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เด็กเล็ก หรือผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงสารดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลต

Sunblock มักระบุบนฉลากว่าเป็น
Physical Sunscreen หรือ Mineral Sunscreen

แม้คำว่า “Sunblock” เคยนิยมใช้ในอดีต แต่หลังปี ค.ศ. 2002 องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (U.S. FDA) ได้กำหนดให้ใช้คำว่า “Sunscreen” เพียงคำเดียวในผลิตภัณฑ์ทุกประเภท เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจน จึงทำให้ในปัจจุบันคำว่า “Sunblock” กลายเป็นเพียงคำไม่เป็นทางการที่ยังคงใช้ในเชิงการตลาดหรือการพูดทั่วไป

Sunscreen คืออะไร ?

Sunscreen (ซันสกรีน) คือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการของผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นแบบใช้สารเคมี หรือสารแร่ธรรมชาติ โดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันอันตรายจากแสงแดดต่อผิวหนัง เช่น ฝ้า กระ ผิวหมองคล้ำ หรือปัญหาผิวอื่น ๆ ที่เกิดจากรังสี UV

Sunblock กับ Sunscreen คืออะไร ต่างกันอย่างไร(1)
Sunscreen มักระบุบนฉลากว่าเป็น
Chemical Sunscreen หรือ UV Filter

ในทางเครื่องสำอางและกฎหมาย คำว่า Sunscreen ถือเป็นมาตรฐานสากลที่ใช้เรียกผลิตภัณฑ์กันแดดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตาม และถูกใช้แทนคำว่า “Sunblock” อย่างเป็นทางการโดย U.S. FDA เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนในการสื่อสารและฉลากผลิตภัณฑ์


เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Sunblock กับ Sunscreen

แม้ทั้งสองชนิดจะเป็นครีมกันแดดที่มีจุดประสงค์เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV เหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้ว Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร นั้นสามารถแยกได้ชัดเจนในหลายแง่มุม ดังนี้ครับ

เปรียบเทียบ Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร

1. กลไกการทำงาน

  • Sunblock ใช้การ สะท้อนและกระเจิง รังสี UV ออกไปจากผิว เปรียบเสมือนเกราะเคลือบผิว
  • Sunscreen ใช้วิธี ดูดซับรังสี UV แล้วแปลงเป็นพลังงานความร้อนก่อนปล่อยออกจากผิว

2. ส่วนผสมหลัก

  • Sunblock ใช้ สารแร่ธรรมชาติ เช่น Zinc Oxide และ Titanium Dioxide
  • Sunscreen ใช้ สารเคมีสังเคราะห์ เช่น Avobenzone, Octinoxate, Oxybenzone เป็นต้น

3. ลักษณะเนื้อสัมผัส

  • Sunblock มีเนื้อครีม ข้น หนา ทาแล้วอาจวอก หรือเป็นคราบขาวในบางโทนสีผิว
  • Sunscreen เนื้อบางเบา ซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ และไม่ทิ้งคราบบนผิว
เนื้อกันแดด Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร

4. ระยะเวลาเริ่มออกฤทธิ์

  • Sunblock ออกแดดได้ทันทีหลังทา ไม่ต้องรอเวลา
  • Sunscreen ควรทา ล่วงหน้าอย่างน้อย 15–20 นาที เพื่อให้สารดูดซึมและทำงานเต็มประสิทธิภาพ

5. ความเหมาะสมกับสภาพผิว

  • Sunblock เหมาะกับ ผิวแพ้ง่าย เด็กเล็ก หรือผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงสารเคมี
  • Sunscreen เหมาะกับ ผิวธรรมดา–ผิวมัน และผู้ที่ต้องการสัมผัสเบาสบายแต่งหน้าติดง่าย

6. ความเสี่ยงในการระคายเคือง

  • Sunblock มีโอกาสระคายเคือง น้อยมาก เพราะไม่ซึมลงสู่ผิว
  • Sunscreen อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ในบางคน โดยเฉพาะหากมี น้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือพาราเบน

7. ความเสถียรเมื่อต้องเจอแดดจัด

  • Sunblock มีความเสถียรสูง ทนแดดได้ดี ไม่สลายง่ายแม้เจอแสง UV เข้มข้น
  • Sunscreen อาจเสื่อมประสิทธิภาพเมื่อเจอเหงื่อหรือแดดจ้านาน ๆ ควรทาซ้ำระหว่างวันเพื่อคงการปกป้อง

ตารางสรุป เปรียบเทียบ Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร

คุณสมบัติSunblock (Physical Sunscreen)Sunscreen (Chemical Sunscreen)
กลไกการทำงานสะท้อนและกระเจิงรังสี UV ออกจากผิวดูดซับรังสี UV แล้วแปลงเป็นพลังงานความร้อน
สารสำคัญหลักZinc Oxide, Titanium DioxideAvobenzone, Octinoxate, Oxybenzone ฯลฯ
การเริ่มออกฤทธิ์ออกแดดได้ทันทีหลังทาต้องทาล่วงหน้าอย่างน้อย 15–20 นาทีก่อนออกแดด
ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์เนื้อครีมข้น หนา อาจทาแล้วดูวอกในบางสีผิวเนื้อบางเบา ซึมง่าย ไม่ทิ้งคราบ
ความเหมาะสมกับสภาพผิวผิวแพ้ง่าย เด็กเล็ก ผิวบอบบางผิวธรรมดาถึงผิวมัน ผู้ที่แต่งหน้าประจำ
ความเสี่ยงต่อการระคายเคืองต่ำมาก ไม่ดูดซึมลงผิวอาจเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองในบางคน
ความเสถียรเมื่อต้องเจอแดดจัดเสถียรสูง ไม่สลายง่ายอาจเสื่อมประสิทธิภาพเมื่อสัมผัสเหงื่อหรือแดดจ้านาน ๆ

Sunblock กับ Sunscreen ปกป้องผิวต่างกันไหม ?

คำถามว่า Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร ยังครอบคลุมไปถึงประสิทธิภาพการปกป้องผิว ซึ่งทั้งสองแบบใช้กลไกต่างกัน จึงให้ประสบการณ์ใช้งานที่ไม่เหมือนกัน ดังนี้ครับ

การปกป้องผิว Sunblock

Sunblock หรือ Physical Sunscreen ทำหน้าที่ สะท้อนและกระเจิงรังสี UV ไม่ให้สัมผัสกับผิวโดยตรง เปรียบเสมือนการสร้าง “เกราะ” ที่เคลือบบนผิวชั้นบน ทำให้รังสี UVA และ UVB ถูกป้องกันตั้งแต่ผิวสัมผัสแรก

การปกป้องผิวของ Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร(1)
Sunblock หรือ Physical Sunscreen

เหมาะสำหรับผิวบอบบางหรือผู้ที่ต้องการความอ่อนโยนสูง โดยไม่จำเป็นต้องรอเวลาออกฤทธิ์หลังทา จุดเด่นคือให้การปกป้องทันที แต่ข้อเสียคือเนื้อครีมค่อนข้างหนา อาจทาแล้วขาวลอยหรือทำให้แต่งหน้าติดยากในบางลุค

การปกป้องผิว Sunscreen

Sunscreen หรือ Chemical Sunscreen จะดูดซับรังสี UV แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ก่อนปล่อยออกจากผิว กลไกนี้ทำให้สามารถปกป้องผิวได้ลึกถึงชั้นผิวแท้ โดยเฉพาะรังสี UVA

การปกป้องผิวของ Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร
Sunscreen หรือ Chemical Sunscreen

จุดเด่นคือเนื้อสัมผัสบางเบา ซึมเร็ว ไม่ทิ้งคราบขาว เหมาะสำหรับผู้ที่แต่งหน้าหรืออยู่กลางแจ้งบ่อย อย่างไรก็ตาม Sunscreen ต้องทาล่วงหน้าอย่างน้อย 15–20 นาที และบางสูตรอาจระคายเคืองผิวแพ้ง่ายได้หากมีน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์


การใช้ผลิตภัณฑ์ Sunblock กับ Sunscreen ปกป้องผิวอย่างไร ?

การเลือกใช้ Sunblock และ Sunscreen อย่างถูกวิธี จะช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาผิวที่เกิดจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีรังสี UV สูงเกือบตลอดปี

ดังนั้น หากเข้าใจว่าประโยชน์ของครีมกันแดด Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร และเลือกใช้อย่างถูกต้องตามประเภทและจุดประสงค์ ก็จะสามารถปกป้องผิวได้จากอันตรายเหล่านี้ครับ

  • ช่วยป้องกันผิวไหม้แดด (Sunburn)
Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร ในการช่วยปกป้องผิว

แสงแดดที่มีรังสี UVB สูง โดยเฉพาะในช่วง 10.00 น. ถึง 16.00 น. ทำให้ผิวแสบ ลอก หากไม่ได้ทาอย่างเหมาะสม ทั้ง Sunblock และ Sunscreen ก็อาจไม่สามารถป้องกันได้อย่างเต็มที่

จึงควรเลือกให้เหมาะกับผิวและสถานการณ์ โดยเข้าใจว่า Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร ในการออกฤทธิ์ครับ ควรทาซ้ำทุก 2–4 ชั่วโมง หากเผชิญแดดจัด เหงื่อออก หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ผิวไหม้แดด มีอาการอย่างไร พร้อม 10 วิธีรักษาและฟื้นฟู ให้ผิวกลับมาสุขภาพดี

  • ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดฝ้าแดด
Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร ในการลดฝ้าแดด

ฝ้าแดดมักเกิดจากการที่รังสี UVA กระตุ้นเม็ดสีเมลานินลึกในผิว ทำให้เกิดฝ้าแดด ถ้าใช้กันแดดไม่สม่ำเสมอหรือเลือกผิดประเภท ความเสี่ยงก็จะเพิ่มขึ้น

ดังนั้น การเข้าใจให้ชัดเจนว่า Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร จะสามารถตัดใจเลือกครีมกันแดดประเภทที่เหมาะกับผิวที่มีแนวโน้มเป็นฝ้าได้ง่ายครับ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ฝ้าแดด คืออะไร เกิดจากอะไร ? พร้อมวิธีรักษาให้รอยฝ้าลดเลือนลง

  • ช่วยป้องกันกระแดดและจุดด่างดำ
Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร ในการลดกระ

รังสี UV ทำลายผิวลึกถึงระดับเซลล์ กระตุ้นให้เกิดกระแดดและจุดด่างดำ โดยเฉพาะในคนผิวขาวหรือไวต่อแสง การเลือกใช้ Sunblock หรือ Sunscreen ให้เหมาะกับสภาพผิว จึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันปัญหาเหล่านี้ครับ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : หน้าเป็นกระแดด ใช้ครีมอะไรดี ? ฟื้นฟูรอยฝ้า กระ จุดด่างดำ ให้จางลง ผิวกระจ่างใสขึ้น

  • ช่วยลดปัญหาหน้าโทรม หมองคล้ำจากแดด
Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร ในการลดหน้าโทรม

รังสี UV ทำลายคอลลาเจนและความชุ่มชื้น ทำให้ผิวแห้งกร้าน หมองคล้ำ ไม่สดใส และดูโทรมแม้จะพักผ่อนเพียงพอ การทาครีมกันแดดทุกวันช่วยป้องกันผิวจากความเสื่อมก่อนวัย และคงความอ่อนเยาว์ได้ยาวนานขึ้น

แต่ควรเลือกให้เหมาะ โดยพิจารณาว่า Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร ด้านเนื้อสัมผัสและความสบายผิว

คลิกอ่านเพิ่มเติม : บอกลาหน้าโทรม หมองคล้ำ ด้วย 18 วิธีกู้ผิวโทรม คืนความสดใสให้ใบหน้า

  • ช่วยลดการเกิดสิวโดยเฉพาะสิวอักเสบ
Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร ในการลดสิว

รังสี UV กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้ผิวมันมากขึ้น เกิดการอุดตัน และเป็นสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบ ครีมกันแดดที่ดีควรเลือกสูตรที่ไม่อุดตันรูขุมขน (Non-comedogenic) เพื่อไม่ซ้ำเติมปัญหาสิวที่มีอยู่ และเข้าใจว่า Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร เพื่อหลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดการอุดตัน

คลิกอ่านเพิ่มเติม :

ใช้กันแดด Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร ช่วยอะไร

แม้จะอยู่ในที่ร่มหรือในอาคาร แสงจากหลอดไฟและหน้าจอก็มีรังสีที่กระตุ้นเม็ดสีผิวได้เช่นกัน

หากไม่ทากันแดดเป็นประจำ ผิวจะดูหม่น ไม่กระจ่างใส และเกิดรอยคล้ำสะสมที่แก้ไขได้ยากในระยะยาว

การเลือกชนิดที่เหมาะและเข้าใจว่า Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร จะช่วยให้ปกป้องผิวได้รอบด้านมากขึ้นครับ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : 10 วิธีแก้ หน้าหมองคล้ำ บอกลาหน้าไม่มีราศี เพิ่มความกระจ่างใส


Sunblock กับ Sunscreen เลือกแบบไหนปลอดภัยกว่า ?

หากสงสัยว่า Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร และแบบไหนปลอดภัยกว่า คำตอบขึ้นอยู่กับสภาพผิว

หากมีผิวแพ้ง่าย Sunblock ที่ใช้สารแร่ธรรมชาติ ไม่ดูดซึมลงผิวอาจเหมาะกว่า แต่หากมีผิวธรรมดาถึงผิวมัน ต้องการความบางเบา ซึมไว ไม่ทิ้งคราบขณะใช้งาน Sunscreen ก็เป็นทางเลือกที่ดี โดยเฉพาะในสูตรที่ปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์

Sunblock กับ Sunscreen กับ Hybrid Sunscreen ต่างกันอย่างไร

นอกจากนี้ยังมี Hybrid Sunscreen ทางเลือกใหม่ที่รวมข้อดีของทั้งสองแบบไว้ในหนึ่งเดียว ปกป้องผิวด้วยกลไก 3 ขั้นตอน ได้แก่ การสะท้อน (Reflect), การกระเจิง (Scatter) และการดูดซับรังสี UV (Absorb) ช่วยลดข้อจำกัดของ Sunblock และลดการระคายเคืองจาก Sunscreen ได้อย่างสมดุล เช่นเดียวกับ

ครีมกันแดด Hybrid Sunscreen สูตรอ่อนโยน สำหรับผิวหน้า
Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream

ครีมกันแดด Hybrid Sunscreen Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream

ครีมกันแดด Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream ที่พัฒนาสูตรพิเศษเพื่อให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของเมืองไทยโดยเฉพาะ ด้วยเทคโนโลยี Hybrid Sunscreen ที่สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA-I, UVA-II, UVB, Blue Light และ Infrared (IR) ได้อย่างครอบคลุม ผ่าน 3 กลไกพร้อมกันในเนื้อเดียว คือ สะท้อน, กระเจิง, และ ดูดซับ

โดยใช้สารกันแดดคุณภาพสูงนำเข้าจากเยอรมนี ผสานกับ Soothing Cooling Agent จากเกาหลีใต้ ที่ช่วยลดอาการแสบร้อนหลังผิวสัมผัสแสงแดด เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวแพ้ง่าย เนื้อครีมบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบขาวระหว่างวัน เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว พร้อมคุณสมบัติกันน้ำใช้ได้ทั้งเป็น เบสก่อนแต่งหน้า หรือ ทาทับระหว่างวันทุก 4 ชั่วโมง


แนวทางการเลือกใช้ Sunscreen แทน Sunblock

เมื่อเข้าใจแล้วว่า Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร การเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวและการใช้งานจริงก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเปลี่ยนจาก Sunblock มาใช้ Sunscreen ควรพิจารณาตามแนวทางต่อไปนี้ครับ

  • เลือกสูตรปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และพาราเบน ลดการระคายเคือง เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า Non-comedogenic (ไม่อุดตันรูขุมขน) ช่วยลดสิวและการอุดตัน
  • เลือกค่า SPF 30–50 และค่า PA ในครีมกันแดด PA+++ ขึ้นไป เพื่อป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ครอบคลุม
  • เลือกเนื้อสัมผัสให้เหมาะกับผิว ผิวมันใช้สูตรเจล/ฟลูอิด ผิวแห้งใช้สูตรครีมหรือโลชั่น
  • พิจารณาใช้ครีมกันแดดประเภท Hybrid Sunscreen เหมาะกับผิวแพ้ง่ายแต่ต้องการการปกป้องสูง
  • ทดสอบการแพ้เบื้องต้นก่อนใช้จริง เพื่อเลี่ยงการระคายเคืองหรืออาการแพ้
  • มองหาผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง เพื่อความมั่นใจในการใช้งานระยะยาว

ข้อควรระวังการใช้ Sunblock แทน Sunscreen

แม้ว่า Sunblock จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย แต่หากเข้าใจว่า Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร จะพบว่า Sunblock เองก็มีข้อจำกัดบางประการในการใช้งานที่ควรระวัง

โดยเฉพาะในแง่ของเนื้อสัมผัส ความสม่ำเสมอในการทา และความสะดวกในชีวิตประจำวัน จึงควรพิจารณาข้อควรระวังต่อไปนี้ก่อนตัดสินใจครับ

  • เนื้อครีมค่อนข้างหนาและเกลี่ยยาก อาจทำให้รู้สึกหนักผิวหรือไม่สบายผิวระหว่างวัน
  • อาจทิ้งคราบขาวบนผิว โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวสองสีหรือผิวคล้ำ
  • ไม่เหมาะกับการแต่งหน้าบางลุค เพราะอาจทำให้เครื่องสำอางเป็นคราบหรือลอย
  • ต้องใช้ในปริมาณมากพอ เพื่อให้ครอบคลุมและปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • อาจหลุดง่ายเมื่อเหงื่อออกหรือมีการสัมผัสผิวบ่อย ๆ ต้องหมั่นเติมระหว่างวัน
  • บางสูตรอาจรู้สึกเหนียวเหนอะหนะในสภาพอากาศร้อนชื้น โดยเฉพาะผิวมัน
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วหรือความเนียนระหว่างวัน เช่น ต้องแต่งหน้าเร่งด่วน

สรุปส่งท้าย Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร ?

จากทั้งหมดจะเห็นว่า Sunblock กับ Sunscreen ต่างกันอย่างไร ไม่ใช่แค่เรื่องของชื่อเรียก แต่รวมถึงกลไกการทำงาน ส่วนผสม และความเหมาะสมกับแต่ละสภาพผิว ซึ่งไม่มีแบบใดที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน การเลือกใช้ให้ตรงกับสภาพผิวและการใช้งานจึงเป็นสิ่งสำคัญ

หรือถ้ายังเลือกไม่ถูก การเลือกใช้ครีมกันแดดสูตร Hybrid Sunscreen อย่าง Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะรวมข้อดีของทั้งสองประเภทไว้ในหนึ่งเดียว ทั้งอ่อนโยน ปกป้องได้รอบด้าน และเหมาะกับผิวทุกประเภท โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการความสะดวกในการใช้ทุกวันครับ

อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่: 24 มิถุนายน 2568

Share: