SPF 40 คือ

ครีมกันแดด SPF 40

ปัจจุบันการใช้ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด SPF 40 ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVB ในแสงแดดได้ครับ แต่หลายคนอาจไม่คุ้นเคยกับกันแดดค่า SPF 40 เท่าไหร่ ในบทความนี้หมอสรุปข้อมูลให้ครับ ว่าครีมกันแดดค่า SPF 40 คืออะไร ? กันแดดได้กี่นาที ? อยู่ได้นานแค่ไหน ? เพียงพอกับการปกป้องผิวหรือไม่ ? สามารถติดตามอ่านกันได้ครับ

คลิกอ่านหัวข้อ ครีมกันแดด SPF 40


ครีมกันแดด SPF 40 คืออะไร ?

ค่า SPF 40 คือ ค่าวัดประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์กันแดด ว่าสามารถปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้มากกว่าผิวปกติที่ไม่ทาครีมกันแดดได้ 40 เท่า หรือ ประมาณ 97.5%

การใช้ครีมกันแดด SPF 40 เป็นค่า SPF การปกป้องระดับกลางระหว่าง SPF 30 และ SPF 50 คนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ที่ต้องการประสิทธิภาพการปกป้องสูง ๆ สามารถใช้กันแดดค่า SPF 40 เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ครับ


ใช้กันแดด SPF 40 พอไหม ปกป้องผิวได้หรือไม่ ?

สำหรับการปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลต (รังสี UV) การใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป ถือว่าเพียงพอกับการปกป้องผิวจากรังสี UVB

ฉะนั้นแล้ว การใช้กันแดด SPF 40 จึงถือว่าเพียงพอกับการปกป้องผิว และยังลดโอกาสเกิดการระคายเคืองจากการใช้กันแดดที่มีค่า SPF สูงได้ครับ

SPF 40 ปกป้องผิวพอไหม
การใช้ครีมกันแดด SPF 40 เพียงพอกับการปกป้องผิว

กันแดด SPF 40 อยู่ได้กี่ชั่วโมง ?

ครีมกันแดด SPF 40 อยู่ได้นานแค่ไหน ? จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน เพราะผิวแต่ละคนมีระยะเวลาทนทานแสงแดดต่างกันก่อนที่ผิวจะเริ่มแดงหรือรู้สึกแสบร้อนผิว

เช่น คนผิวขาวอาจทนแดดได้แค่ 10 นาที คนผิวสองสีอาจทนแดดได้ 20 นาที ส่วนคนผิวเข้มอาจต้องใช้เวลากว่า 30 นาที กว่าจะเริ่มรู้สึกว่าผิวแดงหรือมีอาการแสบร้อนผิว นอกจากนี้กิจกรรมที่ทำในแต่ละวันยัง ส่งผลต่อระยะเวลาที่ครีมกันแดด SPF 40 จะปกป้องผิวได้เช่นกัน

โดยวิธีคำนวณว่าครีมกันแดด SPF 40 อยู่ได้กี่ชั่วโมง มีดังนี้

กันแดด SPF 40 อยู่ได้กี่ชั่วโมง
ตัวอย่างการคำนวณว่าค่า SPF 40 อยู่ได้กี่ชั่วโมง

ให้แทนค่าด้วย SPF 40 x ระยะเวลาทนทานต่อแสงแดด (นาที) = ระยะเวลาที่ครีมกันแดดปกป้องผิว (นาที)

จากตัวอย่าง ผิวสามารถทนทานต่อแสงแดดได้แค่ 10 นาที ก่อนที่ผิวจะเริ่มแดงหรือมีอาการแสบร้อนผิว ครีมกันแดด SPF 40 ที่ใช้ จึงปกป้องผิวได้ประมาณ 6 ชั่วโมง โดยวิธีการคำนวณ คือ 40 x 10 = 400 นาที หรือ ประมาณ 6 ชั่วโมง

ซึ่งวิธีการข้างต้นจะเป็นแค่การคำนวณระยะเวลาที่ครีมกันแดด SPF 40 ปกป้องผิวแบบคร่าว ๆ ครับ เพราะอย่างที่หมอได้กล่าวไปแล้ว ว่าผิวแต่ละคนทนทานต่อแสงแดดได้ต่างกัน หากทำกิจกรรมกลางแจ้ง เล่นกีฬา ว่ายน้ำ ไปทะเล ระยะเวลาของครีมกันแดด SPF 40 จะลดลงตามไปด้วย

ยูวี เอ-บี-ซี ซันสกรีน ครีม
Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream

ส่วนประกอบ Dr. V Square กันแดด SPF 40
Dr. V Square กันแดด SPF 40

Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream SPF 40 PA+++ เป็นครีมกันแดดทาหน้า Triple Protection ที่ช่วยลดการสะท้อน การกระเจิง และการดูดซับจากรังสี UV ได้อย่างสมบูรณ์ ป้องกันได้ครอบคลุมทุกคลื่นรังสี UVA, UVB, UVC, Blue light และ Infrared สารกันแดดที่ใช้นำเข้าจากประเทศเยอรมนี มีความคงตัวสูง สามารถกันน้ำกันเหงื่อได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมง

โดยครีมกันแดด Dr. V Square สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว แม้มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เพราะปราศจากสารอันตราย ลดโอกาสการเกิดการระคายเคืองและปัญหาสิว เนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย แห้งซึมไว มาพร้อมสารสกัด Soothing Cooling นำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ช่วยปลอบประโลมลดอาการแสบผิวเมื่อต้องเผชิญแสงแดดจัดระหว่างวัน


ครีมกันแดด SPF 40 พร้อม PA แต่ละระดับหมายถึงอะไร ?

ไม่ว่าจะเลือกซื้อครีมกันแดด SPF 40 ยี่ห้อไหนก็ตาม ควรเลือกกันแดดที่มีค่า PA ที่บอกระดับการปกป้องผิวจากรังสี UVA ร่วมด้วยเสมอครับ

SPF 40 PA+++

SPF 40 PA+++ หมายถึง ค่าครีมกันแดดที่ปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ 40 เท่า หรือประมาณ 97.5% จากผิวปกติที่ไม่ทาครีมกันแดด พร้อมทั้งปกป้องผิวจากรังสี UVA ได้ระดับสูง หรือเทียบเท่ากับค่า PPD ระดับ 8-16

ซึ่งการใช้ครีมกันแดดค่า SPF 40 PA+++ ถือว่าเพียงพอกับการใช้ในชีวิตประจำวันแล้วครับ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ค่า PPD ในครีมกันแดด คืออะไร ? จำเป็นแค่ไหนในการปกป้องผิวจากแสงแดด

SPF 40 PA++++

SPF 40 PA++++ หมายถึง ค่าครีมกันแดดที่ปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ 40 เท่า หรือประมาณ 97.5% จากผิวปกติที่ไม่ทาครีมกันแดด พร้อมทั้งปกป้องผิวจากรังสี UVA ได้ระดับสูงสุด หรือเทียบเท่ากับค่า PPD ระดับ 16 ขึ้นไป

การใช้กันแดดค่า SPF 40 PA++++ นอกจากจะเหมาะกับการทาในชีวิตประจำวันแล้ว ใครที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งตลอดวัน สามารถใช้เพื่อปกป้องผิวได้เช่นกันครับ

ทาครีมกันแดด SPF 40 ปกป้องผิว
ทาครีมกันแดด SPF 40 ป้องกันการเกิดปัญหาผิว

ไม่ว่าจะใช้ครีมกันแดด SPF 40 ที่มีค่า PA ระดับใดก็ตาม นอกจากต้องทากันแดดในตอนเช้าก่อนออกจากบ้านแล้ว ควรหมั่นทาครีมกันแดดทุก 2-3 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย เพื่อเสริมประสิทธิภาพของสารกันแดด ให้ปกป้องผิวช่วงระหว่างวันได้อย่างต่อเนื่อง จะช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ได้ เช่น


นอกจาก SPF 40 มีค่า SPF ระดับใดอีกบ้าง ?

นอกจากการปกป้องผิวด้วยกันแดด SPF 40 แล้ว ยังมีค่า SPF ระดับอื่น ๆ ให้เลือกใช้ปกป้องผิวตามความเหมาะสมอีก ดังนี้

  • SPF 15

ครีมกันแดด SPF 15 ให้ค่าการปกป้องผิวต่ำสุด ไม่เพียงพอกับการปกป้องผิวจากรังสี UV ที่มีค่า UV Index สูง หมอแนะนำว่าควรเลี่ยงการใช้ครีมกันแดดหน้า SPF 15 ครับ

  • SPF 30

การใช้ครีมกันแดด SPF 30 ถือว่าเพียงพอกับการปกป้องผิวในระหว่างวันแล้วครับ และยังลดโอกาสการระคายเคืองผิวได้ เพราะยิ่งครีมกันแดดมีค่า SPF สูงมากเท่าไหร่ ยิ่งเพิ่มโอกาสการระคายเคืองผิว ผู้ที่มีบอบบางแพ้ง่ายเป็นทุนเดิม จึงเหมาะกับการใช้ครีมกันแดดค่า SPF 30 ครับ

ใช้กันแดด SPF 40 กับ SPF 30
ควรใช้ครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไป เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV
  • SPF 50

ผลิตภัณฑ์กันแดด SPF 50 เป็นค่า SPF ที่ได้รับความนิยมในเมืองไทยครับ เพราะเพียงพอกับการปกป้องผิวในวันธรรมดา หรือวันที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เล่นกีฬา ออกกำลังกาย ว่ายน้ำ ดำน้ำ ไปทะเล ฯลฯ

  • SPF 50+

กันแดด SPF 50+ เป็นค่า SPF ปกป้องผิวระดับสูงสุด อาจจะสูงถึงค่า SPF 100 การใช้ครีมกันแดด SPF 50+ ถือว่าไม่มีความจำเป็นครับ เพราะมีค่าการปกป้องสูงสุดประมาณ 98.5% ซึ่งไม่ต่างกับการใช้กันแดดค่า SPF 50 มากนัก ใครที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย หากใช้กันแดด SPF 50+ อาจมีแนวโน้มเกิดการระคายเคืองผิวได้ เพราะสารกันแดดที่ใช้มีความเข้มข้นสูง


สรุปเรื่องครีมกันแดดค่า SPF 40

การใช้ครีมกันแดดค่า SPF 40 ให้การปกป้องที่ประมาณ 97.5% ซึ่งเป็นระดับการปกป้องผิวที่เพียงพอกับการใช้ทาระหว่างวัน รวมถึงการทำกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ ครับ เพราะไม่มีครีมกันแดดตัวไหนที่กันแดดได้ 100%

ไม่ว่าจะใช้กันแดด SPF 40 หรือค่า SPF ระดับใดก็ตาม ควรทากันแดดซ้ำระหว่างวันเสมออย่างน้อยทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ครีมกันแดดปกป้องผิวได้อย่างต่อเนื่อง เพราะการทากันแดดแค่ช่วงเช้า ไม่เพียงพอต่อการป้องกันรังสี UV ทั้งวัน

อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่: 7 มีนาคม 2568

Share: