หน้าโทรมใช้อะไรดี ? ทาครีมแบบไหนเห็นผล ? กู้ผิวโทรมให้แลดูกระจ่างใสขึ้น

หน้าโทรมใช้อะไรดี

หน้าโทรมใช้อะไรดี

ปัญหาหน้าโทรมมาก ผิวไม่สดใส ทำให้ใครหลายคนหมดความมั่นใจครับ วิธีแก้ปัญหาสุดเบสิก คือ การทาครีมหรือใช้สกินแคร์ เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวโทรมให้กลับมาผิวดีอีกครั้ง

หน้าโทรมใช้อะไรดี ? ถึงจะช่วยฟื้นฟูผิวได้ การทาครีมเห็นผลไหม ? ควรเลือกผลิตภัณฑ์สกินแคร์แบบไหน ? เพื่อบำรุงผิวให้แลดูกระจ่างใส ไม่โทรม หมอสรุปข้อมูลให้ในบทความนี้ครับ

คลิกอ่านหัวข้อ หน้าโทรมใช้อะไรดี


ผิวหน้าโทรมเกิดจากคลื่นรังสีชนิดไหน ?

นอกจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต และอายุที่เพิ่มขึ้นแล้ว รังสี UV จากแสงแดด ยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหน้าโทรมเช่นกันครับ เพราะรังสียูวีเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ เมื่อมีปัญหาผิวจึงส่งผลให้ปัญหาผิวโทรม ผิวไม่สดใสตามมา

ผิวหน้าโทรมเกิดจากคลื่นรังสีชนิดไหน

โดยรังสี UV ที่ทำให้ผิวหน้าโทรม มีดังนี้

  • รังสี UVA คือ คลื่นรังสีที่มีความยาวสูงสุด สามารถทะลุผ่านวัตถุกระจก แล้วทำร้ายผิวเราได้ถึงชั้นผิวหนังแท้โดยตรง เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ สิวอักเสบ รวมถึงปัญหาริ้วรอยก่อนวัย
  • รังสี UVB คือ คลื่นรังสีที่มีความยาวน้อยกว่ารังสี UVA ซึ่งจะทำร้ายผิวได้แค่ผิวชั้นกำพร้าเท่านั้น ผิวที่สัมผัสรังสี UVB โดยไม่ทากันแดดป้องกันอย่างเหมาะสม จะทำให้ผิวเริ่มแดง รู้สึกแสบร้อนผิว หรือที่เรียกกันว่าอาการผิวไหม้แดด

อ่านบทความแนะนำเพิ่มเติม

  • รังสี UVC คือ คลื่นรังสีที่ไม่สามารถผ่านชั้นโอโซนได้ครับ แต่มักพบรังสี UVC ได้บ่อยจากการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป เช่น แสงจากหลอดไฟ การใช้อุปกรณ์ฆ่าเชื้อโรค การใช้ตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ ฯลฯ การสัมผัสแสง UVC โดยไม่มีการป้องกัน อาจทำให้ระคายเคืองผิวและดวงตาได้
  • แสงสีฟ้า (Blue light) คือ แสงที่มาจากดวงอาทิตย์ และแสงจากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แสงเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาผิว เช่น ทำให้ผิวหมองคล้ำ หน้าโทรม กระตุ้นการเกิดสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ฯลฯ
  • รังสีอินฟราเรด (Infrared) คือ รังสีพลังงานความร้อนที่มาจากดวงอาทิตย์ โดยผิวมนุษย์สามารถสัมผัสถึงคลื่นความร้อนได้กล่าวได้ ซึ่งความร้อนจากคลื่นอินฟราเรดมีส่วนกระตุ้นให้คอลลาเจนในผิวเสื่อมสภาพลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย โทรม ขาดความชุ่มชื้น

หน้าโทรม ผิวไม่สดใส แสดงว่าผิวขาดวิตามินอะไร ?

เมื่อพบว่าผิวหน้าโทรม ไม่สดใส มีความเป็นไปได้ว่าร่างกายขาดวิตามินที่สำคัญ และจำเป็นต่อสุขภาพผิวครับ โดยวิตามินที่มีบทความสำคัญต่อผิว หมอสรุปไว้ดังนี้

หน้าโทรมมากใช้อะไรดี เติมวิตามินตัวไหน
  • วิตามินซี (Vitamin C) มีส่วนช่วยกระตุ้นคอลลาเจน เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส ผลัดเซลล์ผิว เลือนจุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง พร้อมช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ป้องกันผิวไม่ให้เสียหายจากการสัมผัสแสงแดดและมลภาวะ
  • วิตามินอี (Vitamin E) มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นระหว่างเซลล์ผิว ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำและรอยแผลเป็น ที่สำคัญยังช่วยปกป้องผิวไม่ให้ถูกแสงแดดทำร้าย เมื่อต้องเผชิญแดดจัดในระหว่างวัน
  • วิตามินดี (Vitamin D) ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย พร้อมช่วยสร้างคอลลาเจนให้กับชั้นผิว ทำให้ผิวแข็งแรงมีความยืดหยุ่น พร้อมทั้งช่วยลดอาการระคายเคืองผิวจากปัญหาสิวและผดผื่น นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดด
  • วิตามินเอ (Vitamin A) ช่วยลดการอุดตันรูขุมขน และควบคุมการผลิตน้ำมันบนผิว ทำให้ลดการเกิดสิวได้ พร้อมเสริมสร้างผิวให้มีความยืดหยุ่น กระตุ้นการคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย ลดจุดด่างดำ ฟื้นฟูสีผิวให้สม่ำเสมอด้วยการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว
  • วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex) มีหลายตัวด้วยกันครับ ที่มีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวพรรณ เช่น
    • วิตามินบี 3 (Niacin) : เพิ่มความสดใสให้ผิวที่โทรม พร้อมปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
    • วิตามินบี 5 (Pantothenic Acid) : ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและเรียบเนียน
    • วิตามินบี 7 (Biotin) : มีส่วนช่วยปกป้องผิวจากการสูญเสียน้ำ พร้อมช่วยบรรเทาอาการผิวหนังอักเสบ
    • วิตามินบี 9 (Folic Acid) : ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด เติมความชุ่มชื้นให้ผิว และต่อสู้กับสัญญาณความแห้งกร้าน
    • วิตามินบี 12 (Cobalamin) : มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ปรับผิวให้แลดูชุ่มชื้น พร้อมลดอาการแพ้ของผิว

หากร่างกายขาดวิตามินดังกล่าว ย่อมส่งผลต่อการเกิดปัญหาผิวโทรมครับ เพราะผิวจะแห้งขาดน้ำ ไม่มีความชุ่มชื้น มีผิวหมองคล้ำ และริ้วรอยเกิดขึ้น

ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีวิตามินเหล่านี้เพียงพอ รวมถึงการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมวิตามินที่ช่วยฟื้นฟูผิว จะช่วยกู้ผิวโทรมให้กลับมาสุขภาพดี และสดใสขึ้นได้แบบเดิมครับ

หน้าโทรมมากใช้อะไรดี เติมวิตามินตัวไหน
การใช้สกินแคร์บำรุงผิว ช่วยฟื้นฟูผิวโทรมได้

หน้าโทรมใช้อะไรดี ควรทาครีมและเซรั่ม ที่มีส่วนผสมแบบไหน ?

สำหรับคำถามหน้าโทรมใช้อะไรดี ? หน้าโทรมมากทาครีมอะไรได้บ้าง ? หมอขอแนะนำว่าควรมองหาผลิตภัณฑ์สกินแคร์บำรุงผิว – ปกป้องผิว ที่มีส่วนผสมเหล่านี้ เพื่อกู้หน้าโทรม และฟื้นฟูผิวให้กลับมากระจ่างใสครับ

วิตามินซี (Vitamin C)

คุณสมบัติเด่นของวิตามินซีในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ คือ ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้หน้าเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และผิวหมองคล้ำ หน้าโทรมใช้อะไรดี ? ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม Vitamin C สามารถช่วยฟื้นฟูผิวโทรม ให้แลดูกระจ่างใสเพิ่มขึ้นได้ครับ

นอกจากนี้วิตามินซียังช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ให้พร้อมเผยผิวใหม่ที่สดใส และยังมีส่วนช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายของรังสี UV ในแสงแดดได้เช่นกัน โดยมักพบ Vitamin C ในผลิตภัณฑ์เซรั่ม ครีม โลชั่น มาส์ก รวมถึงสบู่ก้อนหรือครีมอาบน้ำ

AHA & BHA

AHA (Alpha Hydroxy Acid) และ BHA (Beta Hydroxy Acid) คือ สารประกอบที่ออกฤทธิ์เป็นกรด มักนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า เช่น เซรั่ม ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ครีมลดเลือนริ้วรอย ฯลฯ

โดยกรด AHA & BHA จะช่วยปรับผิวหน้าเราให้มีค่า pH ที่เหมาะสม จึงมีคุณสมบัติที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ป้องกันสิว รักษาสิว นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูผิวที่โทรม ให้แลดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ หน้าโทรมใช้อะไรดีเห็นผล ? การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์เป็นกรด AHA & BHA ช่วยได้ครับ

ตัวอย่างสาร AHA เช่น

  • กรดซิตริก (Citric Acid) จากผลไม้รสเปรี้ยว
  • กรดทาร์ทาริก (Tartaric Acid) จากองุ่น
  • กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) จากอ้อย
  • กรดแลคติก (Lactic Acid) จากนมเปรี้ยว

ตัวอย่างสาร BHA เช่น

  • ซาลิไซลิก (Salicylic Acid) จากเปลือกของต้นหลิวจีน (Willow)
หน้าโทรมใช้อะไรดี ใช้ส่วนผสม AHA BHA
สกินแคร์ที่มีส่วนผสม AHA & BHA มีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวโทรมหมองคล้ำ

ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid)

ไฮยาลูรอนิค แอซิด หรือ สาร HA เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยกู้ผิวหน้าโทรมได้ โดยมีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวหน้าที่หมองคล้ำให้ดูสดใส และดูเรียบเนียนขึ้นได้ ด้วยการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติเด่นของสารไฮยาลูรอนิค แอซิด

หลังใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีสาร HA อย่างต่อเนื่อง เมื่อผิวมีความชุ่มชื้นขึ้น ริ้วรอยเล็ก ๆ จะดูจางลง นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวแลดูอิ่มน้ำ สดใส พร้อมกู้ผิวโทรมให้กลับมาสุขภาพดีและมีชีวิตชีวาได้อีกครั้งครับ โดยมักพบไฮยาลูรอนิค แอซิด ได้บ่อยในผลิตภัณฑ์เซรั่ม และ ครีมบำรุงผิว

ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide)

หน้าโทรมใช้ครีมที่มีส่วนผสมอะไรดี ? หมอขอแนะนำ ไนอะซินาไมด์ ให้รู้จักครับ

Niacinamide คือ วิตามินบี 3 ที่อยู่ในกลุ่มวิตามินรวม (Vitamin B Complex) ในทางสกินแคร์ไนอะซินาไมด์จัดว่าเป็นสารออกฤทธิ์ (Active Ingredient) ที่มีความอ่อนโยนและเหมาะกับทุกสภาพผิว มีส่วนช่วยลดความมัน ลดการระคายเคือง ลดริ้วรอยหรือรอยสิว

นอกจากนี้ Niacinamide ที่เป็นส่วนผสมในสกินแคร์ ยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ครับ ทำให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรง ลดโอกาสการเกิดหน้าโทรม และช่วยบำรุงผิวหมองคล้ำที่โทรมให้แลดูกระจ่างใสขึ้น

หน้าโทรมใช้อะไรดี ใช้ Niacinamide
Niacinamide ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง

เรตินอล (Retinol)

เรตินอล เป็นอนุพันธ์วิตามินเอความเข้มข้นระดับกลาง ที่จัดอยู่ในกลุ่มเรตินอยด์ (Retinoids) มีคุณสมบัติเด่นในด้านการกระตุ้นคอลลาเจน และเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้ริ้วรอยเล็ก ๆ แลดูจางลงเมื่อใช้บำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง 3 – 6 เดือนขึ้นไป

พร้อมทั้งยังช่วยลดเลือนรอยสิว จุดด่างดำ ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำที่โทรมให้สีผิวมีความสม่ำเสมอ แต่การใช้เรตินอลในผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายต้องระมัดระวังครับ เพราะอาจเสี่ยงต่อการระคายเคืองผิวได้ง่าย

พอลิเพปไทด์ (Polypeptide)

พอลิเพปไทด์ หรือ เปปไทด์ คือ สารที่ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนหลายชนิดเรียงต่อกันเป็นสายยาว จนเกิดเป็นโมเลกุลของโปรตีน ซึ่งในปัจุบันพบว่ามีการนำเปปไทด์มาใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมากขึ้น เพื่อช่วยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์

การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมเปปไทด์ มีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน พร้อมลดปริมาณการเสื่อมสลายของคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ริ้วรอยแห่งวัยแลดูจางลง เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) แข็งแรงขึ้น ผิวอิ่มฟูกระชับ และช่วยล็อกความชุ่มชื้นให้ผิว

หน้าโทรมใช้อะไรดี ใช้ Polypeptide
สกินแคร์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบ Polypeptide ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

ผิวหน้าโทรม ทาครีมกันแดดได้ไหม ควรทาหรือไม่ ?

แม้ว่าจะหน้าโทรม ผิวหน้าไม่สดใส หรือมีปัญหาผิวต่าง ๆ หมอแนะนำว่าควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันเสมอครับ ถึงจะอยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปไหน หรือว่าออกไปทำงานก็ตาม

เพราะประโยชน์ของครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดปัญหาผิว และเป็นปัจจัยกระตุ้นการเกิดหน้าโทรม

โดยแนวทางพิจารณาครีมกันแดด เพื่อปกป้องผิวไม่ให้โทรม มีดังนี้

  • ครีมกันแดดต้องมีค่า SPF 30+ และมีค่า PA 3+ ขึ้นไป
  • ปกป้องผิวครอบคลุมทุกคลื่นรังสี ได้แก่ UVA 1, UVA 2, UVB, UVC, Blue light และ Infrared
  • เลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิว หรือระบุว่าเหมาะกับทุกสภาพผิว
  • กันแดดต้องปราศจากสารก่อระคายเคือง ที่ทำให้เกิดการอุดตัน หรือเกิดสิว
  • ป้องกันการสะท้อน การกระเจิง และการดูดซับรังสี UV ของแสงแดดจากดวงอาทิตย์
  • พัฒนาสูตรกันแดด ให้สามารถทาซ้ำระหว่างวันได้
  • มีระยะเวลาบอกประสิทธิภาพการกันน้ำ กันเหงื่อ โดยระบุจำนวนชั่วโมงชัดเจน
  • มีส่วนผสมในครีมกันแดดที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว
  • มีสารสกัดที่ช่วยปลอบประโลมผิวขณะออกแดด ป้องกันอาการแสบผิว

ครีมกันแดดป้องกันหน้าโทรม
DR. V SQUARE UV ABC SUNSCREEN CREAM SPF40 PA+++

dr. v square กันแดดไม่ทำให้หน้าโทรม

Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream SPF 40 PA+++ ครีมกันแดดทาหน้าที่มีเนื้อคงตัวสูงนำเข้าจากประเทศเยอรมัน สามารถกันแดดได้ทุกคลื่นรังสี ครอบคลุมทั้งรังสี UVA 1, UVA 2, UVB, UVC, Blue light และ Infrared ปกป้องผิวจากการสะท้อน การกระเจิง และการดูดซับ ได้ทั้ง 3 กระบวนการภายในเนื้อครีมเดียว ช่วยปกป้องไม่ให้ผิวโทรมจากแดด ลดโอกาสการเกิดผิวหมองคล้ำ และปัญหาผิวต่าง ๆ

โดยครีมกันแดด Dr. V Square สูตรนี้ สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว แม้ว่าจะมีผิวบอบบางแพ้ง่ายเป็นพิเศษ เพราะส่วนผสมที่ใช้ปราศจากสารอันตราย ไม่ก่อให้เกิดสิวตามมา เนื้อครีมสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย มีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหลังทา นอกจากนี้ยังมีสารสกัด Soothing Cooling จากประเทศเกาหลีใต้ ที่ช่วยปลอบประโลมผิว และลดอาการแสบผิวขณะออกแดดครับ


วิธีการทาครีม ลงสกินแคร์ ไม่ให้หน้าโทรมมาก

ก่อนลงสกินแคร์ใด ๆ ก็ตาม ควรล้างหน้าทำความสะอาดผิวด้วย Cleanser ก่อนเสมอครับ เพื่อเป็นการขจัดความมันส่วนเกิน และสิ่งสกปรกตกค้าง

ใช้ครีมอะไรดีเมื่อหน้าโทรม

โดยขั้นตอนการลงสกินแคร์ ปกป้องผิวไม่ให้โทรม มีดังนี้

  1. โทนเนอร์ (Toner) : ใช้สำหรับปรับสมดุลผิว เป็นการเตรียมผิวให้พร้อมก่อนลงสกินแคร์
  2. เอสเซนส์ หรือ น้ำตบ (Essence) : ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ควบคุมความมัน ทำให้ผิวเตรียมพร้อมรับสารบำรุงผิว
  3. เซรั่ม (Serum) : มีหลากหลายตัวให้เลือกใช้งานตามปัญหาผิว เช่น เซรั่มลดสิว ลดฝ้า โดยควรเลือกใช้เซรั่มให้ตอบโจทย์กับปัญหาผิวครับ
  4. ครีมบำรุงรอบดวงตา (Eye Cream) : มีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวรอบดวงตาที่หมองคล้ำ ให้แลดูกระจ่างใส นอกจากนี้ยังช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตาได้
  5. มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) : สกินแคร์ขั้นพื้นฐานที่สำคัญและจำเป็น เพราะช่วยล็อกความชุ่มชื้นให้ผิว และปกป้องผิวจากการสูญเสียน้ำ
  6. ครีมกันแดด (Sunscreen) : ใช้เพื่อปกป้องผิวหน้าโทรมจากรังสี UV ในแสงแดด และยังช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ฝ้าแดด กระแดด จุดด่างดำ ริ้วรอยก่อนวัย

ในความเป็นจริงแล้ว ไม่จำเป็นต้องลงสกินแคร์ให้ครบทุกลำดับครับ สกินแคร์รูทีนพื้นฐานที่ควรมี มีอยู่ 3 ตัวด้วยกัน คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้า (Cleanser) มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) และ ครีมกันแดด (Sunscreen)

แต่เพื่อฟื้นฟูผิวหน้าโทรมให้กลับมากระจ่างใสอีกครั้ง สามารถเพิ่มตัวเซรั่มฟื้นฟูผิวกระจ่างใสที่มีส่วนผสม Vitamin C, AHA & BHA, Hyaluronic Acid, Niacinamide ฯลฯ เข้ามาเป็นหนึ่งใน Skincare Routine ได้ โดยลำดับการลงสกินแคร์สามารถยึดตามข้างต้น ตามที่หมอแนะนำได้ครับ


แนวทางการดูแลตัวเองไม่ให้หน้าโทรม

นอกจากการทาครีมบำรุงผิวฟื้นฟูหน้าโทรมแล้ว การดูแลตัวเอง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ก็มีส่วนช่วยกู้หน้าโทรมให้แลดูกระจ่างใส สุขภาพดี ได้เช่นกันครับ

แนวทางการดูแลตัวเองไม่ให้หน้าโทรม

แนวทางการดูแลตัวเองฟื้นฟูหน้าโทรม มีดังนี้

  • เข้านอน – ตื่นนอน ในเวลาเดิม : การนอนและตื่นในเวลาเดิม หรือใกล้เคียงเวลาเดิมมากที่สุด จะช่วยให้นาฬิกาชีวิตเกิดความสมดุล ประสิทธิภาพการนอนมีคุณภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ที่สำคัญช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต ฯลฯ
  • นอนพักผ่อนให้เพียงพอ : การนอนไม่พอเป็นปัจจัยที่ทำให้หน้าโทรม อย่างน้อยควรนอนวันละ 7-9 ชั่วโมง และควรเข้านอนก่อนเวลา 24.00 น. เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน และหลั่งฮอร์โมนที่มีส่วนช่วยฟื้นฟูร่างกายครับ
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ : การออกกำลังกายมีส่วนช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนเลือดในร่างกาย ทำให้หัวใจแข็งแรงมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวสดใสขึ้น ไม่โทรม โดยควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อเสริมความแข็งแรงให้ร่างกายครับ
  • ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ : การดื่มน้ำเปล่าจะช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นไว้ได้ครับ และยังทำให้เลือดไหลเวียนดี ผิวไม่โทรม พร้อมช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย โดยควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอตามน้ำหนักตัวครับ
ดื่มน้ำแค่ไหน หน้าไม่โทรม
ตัวอย่างการคำนวณว่าควรดื่มน้ำวันละเท่าไหร่
  • ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน : หากมองหาว่าถ้าหน้าโทรมใช้อะไรดี ? ครีมกันแดดเป็นอีกหนึ่งในสกินแคร์รูทีนที่ควรทาเป็นประจำทุกวันครับ โดยควรทาปริมาณ 2 ข้อนิ้วมือเต็ม ๆ (วัดจากนิ้วชี้และนิ้วกลาง) เพื่อปกป้องผิวเมื่อต้องเผชิญแสงแดดจัดในแต่ละวัน
  • ทาสกินแคร์บำรุงผิว : หน้าโทรมใช้อะไรดี จึงจะฟื้นฟูผิวโทรมได้ไว ? ผลิตภัณฑ์สกินแคร์สามารถช่วยกู้ปัญหาผิวโทรมได้ครับ หมอแนะนำให้มองหาสกินแคร์ที่มีส่วนผสม เช่น ไฮยาลูรอนิก แอซิด, วิตามินอี และเชียบัตเตอร์ ฯลฯ ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดด และมลภาวะต่าง ๆ
  • มาส์กหน้ากู้ผิวโทรม : การมาส์กหน้าช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น พร้อมช่วยปรับผิวโทรมหมองคล้ำ ให้แลดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ โดยการมาส์กหน้าเพื่อฟื้นฟูผิวโทรม ควรทำสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวบางลงครับ
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ : การทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทุกหมู่มีผลต่อผิวพรรณครับ ยิ่งเป็นสารอาหารจำพวกวิตามิน เกลือแร่ จะช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง ปกป้องผิวไม่ให้เสียหายเมื่อโดนแสงแดดจัด นอกจากนี้การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพยังช่วยชะลอวัย ทำให้ผิวไม่โทรมไวขึ้น

คลิกอ่านเพิ่มเติม : หน้าโทรมกินอะไรดี ? เผยทริคการเลือกกินให้ผิวสวยหน้าใส ไม่โทรม


สรุปเรื่องหน้าโทรมใช้อะไรดี ทาครีมตัวไหนเห็นผล

ผิวหน้าโทรมใช้อะไรดี ? สามารถใช้ได้ทั้งครีมบำรุงหรือเซรั่มที่มีส่วนผสมจาก Vitamin C, AHA & BHA, Niacinamide, Retinol และ Peptide / Polypeptide ได้ครับ นอกจากการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมดังกล่าวแล้ว หมอแนะนำว่าควรใช้ครีมกันแดดควบคู่ไปพร้อมกันครับ เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ที่เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาผิวหน้าโทรม