หน้าโทรมใช้อะไรดี
ปัญหาหน้าโทรมมาก ผิวไม่สดใส ทำให้ใครหลายคนหมดความมั่นใจครับ วิธีแก้ปัญหาสุดเบสิก คือ การทาครีมหรือใช้สกินแคร์ เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวโทรมให้กลับมาผิวดีอีกครั้ง
หน้าโทรมใช้อะไรดี ? ถึงจะช่วยฟื้นฟูผิวได้ การทาครีมเห็นผลไหม ? ควรเลือกผลิตภัณฑ์สกินแคร์แบบไหน ? เพื่อบำรุงผิวให้แลดูกระจ่างใส ไม่โทรม หมอสรุปข้อมูลให้ในบทความนี้ครับ
คลิกอ่านหัวข้อ หน้าโทรมใช้อะไรดี
ผิวหน้าโทรมเกิดจากคลื่นรังสีชนิดไหน ?
นอกจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต และอายุที่เพิ่มขึ้นแล้ว รังสี UV จากแสงแดด ยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหน้าโทรมเช่นกันครับ เพราะรังสียูวีเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ เมื่อมีปัญหาผิวจึงส่งผลให้ปัญหาผิวโทรม ผิวไม่สดใสตามมา
โดยรังสี UV ที่ทำให้ผิวหน้าโทรม มีดังนี้
- รังสี UVA คือ คลื่นรังสีที่มีความยาวสูงสุด สามารถทะลุผ่านวัตถุกระจก แล้วทำร้ายผิวเราได้ถึงชั้นผิวหนังแท้โดยตรง เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ สิวอักเสบ รวมถึงปัญหาริ้วรอยก่อนวัย
- รังสี UVB คือ คลื่นรังสีที่มีความยาวน้อยกว่ารังสี UVA ซึ่งจะทำร้ายผิวได้แค่ผิวชั้นกำพร้าเท่านั้น ผิวที่สัมผัสรังสี UVB โดยไม่ทากันแดดป้องกันอย่างเหมาะสม จะทำให้ผิวเริ่มแดง รู้สึกแสบร้อนผิว หรือที่เรียกกันว่าอาการผิวไหม้แดด
อ่านบทความแนะนำเพิ่มเติม
- รังสี UVC คือ คลื่นรังสีที่ไม่สามารถผ่านชั้นโอโซนได้ครับ แต่มักพบรังสี UVC ได้บ่อยจากการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป เช่น แสงจากหลอดไฟ การใช้อุปกรณ์ฆ่าเชื้อโรค การใช้ตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ ฯลฯ การสัมผัสแสง UVC โดยไม่มีการป้องกัน อาจทำให้ระคายเคืองผิวและดวงตาได้
- แสงสีฟ้า (Blue light) คือ แสงที่มาจากดวงอาทิตย์ และแสงจากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แสงเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาผิว เช่น ทำให้ผิวหมองคล้ำ หน้าโทรม กระตุ้นการเกิดสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ฯลฯ
- รังสีอินฟราเรด (Infrared) คือ รังสีพลังงานความร้อนที่มาจากดวงอาทิตย์ โดยผิวมนุษย์สามารถสัมผัสถึงคลื่นความร้อนได้กล่าวได้ ซึ่งความร้อนจากคลื่นอินฟราเรดมีส่วนกระตุ้นให้คอลลาเจนในผิวเสื่อมสภาพลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย โทรม ขาดความชุ่มชื้น
หน้าโทรม ผิวไม่สดใส แสดงว่าผิวขาดวิตามินอะไร ?
เมื่อพบว่าผิวหน้าโทรม ไม่สดใส มีความเป็นไปได้ว่าร่างกายขาดวิตามินที่สำคัญ และจำเป็นต่อสุขภาพผิวครับ โดยวิตามินที่มีบทความสำคัญต่อผิว หมอสรุปไว้ดังนี้
- วิตามินซี (Vitamin C) มีส่วนช่วยกระตุ้นคอลลาเจน เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส ผลัดเซลล์ผิว เลือนจุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง พร้อมช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ป้องกันผิวไม่ให้เสียหายจากการสัมผัสแสงแดดและมลภาวะ
- วิตามินอี (Vitamin E) มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นระหว่างเซลล์ผิว ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำและรอยแผลเป็น ที่สำคัญยังช่วยปกป้องผิวไม่ให้ถูกแสงแดดทำร้าย เมื่อต้องเผชิญแดดจัดในระหว่างวัน
- วิตามินดี (Vitamin D) ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย พร้อมช่วยสร้างคอลลาเจนให้กับชั้นผิว ทำให้ผิวแข็งแรงมีความยืดหยุ่น พร้อมทั้งช่วยลดอาการระคายเคืองผิวจากปัญหาสิวและผดผื่น นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดด
- วิตามินเอ (Vitamin A) ช่วยลดการอุดตันรูขุมขน และควบคุมการผลิตน้ำมันบนผิว ทำให้ลดการเกิดสิวได้ พร้อมเสริมสร้างผิวให้มีความยืดหยุ่น กระตุ้นการคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย ลดจุดด่างดำ ฟื้นฟูสีผิวให้สม่ำเสมอด้วยการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว
- วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex) มีหลายตัวด้วยกันครับ ที่มีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวพรรณ เช่น
- วิตามินบี 3 (Niacin) : เพิ่มความสดใสให้ผิวที่โทรม พร้อมปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
- วิตามินบี 5 (Pantothenic Acid) : ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและเรียบเนียน
- วิตามินบี 7 (Biotin) : มีส่วนช่วยปกป้องผิวจากการสูญเสียน้ำ พร้อมช่วยบรรเทาอาการผิวหนังอักเสบ
- วิตามินบี 9 (Folic Acid) : ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด เติมความชุ่มชื้นให้ผิว และต่อสู้กับสัญญาณความแห้งกร้าน
- วิตามินบี 12 (Cobalamin) : มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ปรับผิวให้แลดูชุ่มชื้น พร้อมลดอาการแพ้ของผิว
หากร่างกายขาดวิตามินดังกล่าว ย่อมส่งผลต่อการเกิดปัญหาผิวโทรมครับ เพราะผิวจะแห้งขาดน้ำ ไม่มีความชุ่มชื้น มีผิวหมองคล้ำ และริ้วรอยเกิดขึ้น
ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีวิตามินเหล่านี้เพียงพอ รวมถึงการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมวิตามินที่ช่วยฟื้นฟูผิว จะช่วยกู้ผิวโทรมให้กลับมาสุขภาพดี และสดใสขึ้นได้แบบเดิมครับ
หน้าโทรมใช้อะไรดี ควรทาครีมและเซรั่ม ที่มีส่วนผสมแบบไหน ?
สำหรับคำถามหน้าโทรมใช้อะไรดี ? หน้าโทรมมากทาครีมอะไรได้บ้าง ? หมอขอแนะนำว่าควรมองหาผลิตภัณฑ์สกินแคร์บำรุงผิว – ปกป้องผิว ที่มีส่วนผสมเหล่านี้ เพื่อกู้หน้าโทรม และฟื้นฟูผิวให้กลับมากระจ่างใสครับ
วิตามินซี (Vitamin C)
คุณสมบัติเด่นของวิตามินซีในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ คือ ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้หน้าเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และผิวหมองคล้ำ หน้าโทรมใช้อะไรดี ? ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม Vitamin C สามารถช่วยฟื้นฟูผิวโทรม ให้แลดูกระจ่างใสเพิ่มขึ้นได้ครับ
นอกจากนี้วิตามินซียังช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ให้พร้อมเผยผิวใหม่ที่สดใส และยังมีส่วนช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายของรังสี UV ในแสงแดดได้เช่นกัน โดยมักพบ Vitamin C ในผลิตภัณฑ์เซรั่ม ครีม โลชั่น มาส์ก รวมถึงสบู่ก้อนหรือครีมอาบน้ำ
AHA & BHA
AHA (Alpha Hydroxy Acid) และ BHA (Beta Hydroxy Acid) คือ สารประกอบที่ออกฤทธิ์เป็นกรด มักนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า เช่น เซรั่ม ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ครีมลดเลือนริ้วรอย ฯลฯ
โดยกรด AHA & BHA จะช่วยปรับผิวหน้าเราให้มีค่า pH ที่เหมาะสม จึงมีคุณสมบัติที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ป้องกันสิว รักษาสิว นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูผิวที่โทรม ให้แลดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ หน้าโทรมใช้อะไรดีเห็นผล ? การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์เป็นกรด AHA & BHA ช่วยได้ครับ
ตัวอย่างสาร AHA เช่น
- กรดซิตริก (Citric Acid) จากผลไม้รสเปรี้ยว
- กรดทาร์ทาริก (Tartaric Acid) จากองุ่น
- กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) จากอ้อย
- กรดแลคติก (Lactic Acid) จากนมเปรี้ยว
ตัวอย่างสาร BHA เช่น
- ซาลิไซลิก (Salicylic Acid) จากเปลือกของต้นหลิวจีน (Willow)
ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid)
ไฮยาลูรอนิค แอซิด หรือ สาร HA เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยกู้ผิวหน้าโทรมได้ โดยมีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวหน้าที่หมองคล้ำให้ดูสดใส และดูเรียบเนียนขึ้นได้ ด้วยการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติเด่นของสารไฮยาลูรอนิค แอซิด
หลังใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีสาร HA อย่างต่อเนื่อง เมื่อผิวมีความชุ่มชื้นขึ้น ริ้วรอยเล็ก ๆ จะดูจางลง นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวแลดูอิ่มน้ำ สดใส พร้อมกู้ผิวโทรมให้กลับมาสุขภาพดีและมีชีวิตชีวาได้อีกครั้งครับ โดยมักพบไฮยาลูรอนิค แอซิด ได้บ่อยในผลิตภัณฑ์เซรั่ม และ ครีมบำรุงผิว
ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide)
หน้าโทรมใช้ครีมที่มีส่วนผสมอะไรดี ? หมอขอแนะนำ ไนอะซินาไมด์ ให้รู้จักครับ
Niacinamide คือ วิตามินบี 3 ที่อยู่ในกลุ่มวิตามินรวม (Vitamin B Complex) ในทางสกินแคร์ไนอะซินาไมด์จัดว่าเป็นสารออกฤทธิ์ (Active Ingredient) ที่มีความอ่อนโยนและเหมาะกับทุกสภาพผิว มีส่วนช่วยลดความมัน ลดการระคายเคือง ลดริ้วรอยหรือรอยสิว
นอกจากนี้ Niacinamide ที่เป็นส่วนผสมในสกินแคร์ ยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ครับ ทำให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรง ลดโอกาสการเกิดหน้าโทรม และช่วยบำรุงผิวหมองคล้ำที่โทรมให้แลดูกระจ่างใสขึ้น
เรตินอล (Retinol)
เรตินอล เป็นอนุพันธ์วิตามินเอความเข้มข้นระดับกลาง ที่จัดอยู่ในกลุ่มเรตินอยด์ (Retinoids) มีคุณสมบัติเด่นในด้านการกระตุ้นคอลลาเจน และเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้ริ้วรอยเล็ก ๆ แลดูจางลงเมื่อใช้บำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง 3 – 6 เดือนขึ้นไป
พร้อมทั้งยังช่วยลดเลือนรอยสิว จุดด่างดำ ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำที่โทรมให้สีผิวมีความสม่ำเสมอ แต่การใช้เรตินอลในผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายต้องระมัดระวังครับ เพราะอาจเสี่ยงต่อการระคายเคืองผิวได้ง่าย
พอลิเพปไทด์ (Polypeptide)
พอลิเพปไทด์ หรือ เปปไทด์ คือ สารที่ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนหลายชนิดเรียงต่อกันเป็นสายยาว จนเกิดเป็นโมเลกุลของโปรตีน ซึ่งในปัจุบันพบว่ามีการนำเปปไทด์มาใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมากขึ้น เพื่อช่วยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์
การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมเปปไทด์ มีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน พร้อมลดปริมาณการเสื่อมสลายของคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ริ้วรอยแห่งวัยแลดูจางลง เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) แข็งแรงขึ้น ผิวอิ่มฟูกระชับ และช่วยล็อกความชุ่มชื้นให้ผิว
ผิวหน้าโทรม ทาครีมกันแดดได้ไหม ควรทาหรือไม่ ?
แม้ว่าจะหน้าโทรม ผิวหน้าไม่สดใส หรือมีปัญหาผิวต่าง ๆ หมอแนะนำว่าควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันเสมอครับ ถึงจะอยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปไหน หรือว่าออกไปทำงานก็ตาม
เพราะประโยชน์ของครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดปัญหาผิว และเป็นปัจจัยกระตุ้นการเกิดหน้าโทรม
โดยแนวทางพิจารณาครีมกันแดด เพื่อปกป้องผิวไม่ให้โทรม มีดังนี้
- ครีมกันแดดต้องมีค่า SPF 30+ และมีค่า PA 3+ ขึ้นไป
- ปกป้องผิวครอบคลุมทุกคลื่นรังสี ได้แก่ UVA 1, UVA 2, UVB, UVC, Blue light และ Infrared
- เลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิว หรือระบุว่าเหมาะกับทุกสภาพผิว
- กันแดดต้องปราศจากสารก่อระคายเคือง ที่ทำให้เกิดการอุดตัน หรือเกิดสิว
- ป้องกันการสะท้อน การกระเจิง และการดูดซับรังสี UV ของแสงแดดจากดวงอาทิตย์
- พัฒนาสูตรกันแดด ให้สามารถทาซ้ำระหว่างวันได้
- มีระยะเวลาบอกประสิทธิภาพการกันน้ำ กันเหงื่อ โดยระบุจำนวนชั่วโมงชัดเจน
- มีส่วนผสมในครีมกันแดดที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว
- มีสารสกัดที่ช่วยปลอบประโลมผิวขณะออกแดด ป้องกันอาการแสบผิว
ครีมกันแดดป้องกันหน้าโทรม
DR. V SQUARE UV ABC SUNSCREEN CREAM SPF40 PA+++
Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream SPF 40 PA+++ ครีมกันแดดทาหน้าที่มีเนื้อคงตัวสูงนำเข้าจากประเทศเยอรมัน สามารถกันแดดได้ทุกคลื่นรังสี ครอบคลุมทั้งรังสี UVA 1, UVA 2, UVB, UVC, Blue light และ Infrared ปกป้องผิวจากการสะท้อน การกระเจิง และการดูดซับ ได้ทั้ง 3 กระบวนการภายในเนื้อครีมเดียว ช่วยปกป้องไม่ให้ผิวโทรมจากแดด ลดโอกาสการเกิดผิวหมองคล้ำ และปัญหาผิวต่าง ๆ
โดยครีมกันแดด Dr. V Square สูตรนี้ สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว แม้ว่าจะมีผิวบอบบางแพ้ง่ายเป็นพิเศษ เพราะส่วนผสมที่ใช้ปราศจากสารอันตราย ไม่ก่อให้เกิดสิวตามมา เนื้อครีมสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย มีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหลังทา นอกจากนี้ยังมีสารสกัด Soothing Cooling จากประเทศเกาหลีใต้ ที่ช่วยปลอบประโลมผิว และลดอาการแสบผิวขณะออกแดดครับ
วิธีการทาครีม ลงสกินแคร์ ไม่ให้หน้าโทรมมาก
ก่อนลงสกินแคร์ใด ๆ ก็ตาม ควรล้างหน้าทำความสะอาดผิวด้วย Cleanser ก่อนเสมอครับ เพื่อเป็นการขจัดความมันส่วนเกิน และสิ่งสกปรกตกค้าง
โดยขั้นตอนการลงสกินแคร์ ปกป้องผิวไม่ให้โทรม มีดังนี้
- โทนเนอร์ (Toner) : ใช้สำหรับปรับสมดุลผิว เป็นการเตรียมผิวให้พร้อมก่อนลงสกินแคร์
- เอสเซนส์ หรือ น้ำตบ (Essence) : ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ควบคุมความมัน ทำให้ผิวเตรียมพร้อมรับสารบำรุงผิว
- เซรั่ม (Serum) : มีหลากหลายตัวให้เลือกใช้งานตามปัญหาผิว เช่น เซรั่มลดสิว ลดฝ้า โดยควรเลือกใช้เซรั่มให้ตอบโจทย์กับปัญหาผิวครับ
- ครีมบำรุงรอบดวงตา (Eye Cream) : มีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวรอบดวงตาที่หมองคล้ำ ให้แลดูกระจ่างใส นอกจากนี้ยังช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตาได้
- มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) : สกินแคร์ขั้นพื้นฐานที่สำคัญและจำเป็น เพราะช่วยล็อกความชุ่มชื้นให้ผิว และปกป้องผิวจากการสูญเสียน้ำ
- ครีมกันแดด (Sunscreen) : ใช้เพื่อปกป้องผิวหน้าโทรมจากรังสี UV ในแสงแดด และยังช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ฝ้าแดด กระแดด จุดด่างดำ ริ้วรอยก่อนวัย
ในความเป็นจริงแล้ว ไม่จำเป็นต้องลงสกินแคร์ให้ครบทุกลำดับครับ สกินแคร์รูทีนพื้นฐานที่ควรมี มีอยู่ 3 ตัวด้วยกัน คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้า (Cleanser) มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) และ ครีมกันแดด (Sunscreen)
แต่เพื่อฟื้นฟูผิวหน้าโทรมให้กลับมากระจ่างใสอีกครั้ง สามารถเพิ่มตัวเซรั่มฟื้นฟูผิวกระจ่างใสที่มีส่วนผสม Vitamin C, AHA & BHA, Hyaluronic Acid, Niacinamide ฯลฯ เข้ามาเป็นหนึ่งใน Skincare Routine ได้ โดยลำดับการลงสกินแคร์สามารถยึดตามข้างต้น ตามที่หมอแนะนำได้ครับ
แนวทางการดูแลตัวเองไม่ให้หน้าโทรม
นอกจากการทาครีมบำรุงผิวฟื้นฟูหน้าโทรมแล้ว การดูแลตัวเอง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ก็มีส่วนช่วยกู้หน้าโทรมให้แลดูกระจ่างใส สุขภาพดี ได้เช่นกันครับ
แนวทางการดูแลตัวเองฟื้นฟูหน้าโทรม มีดังนี้
- เข้านอน – ตื่นนอน ในเวลาเดิม : การนอนและตื่นในเวลาเดิม หรือใกล้เคียงเวลาเดิมมากที่สุด จะช่วยให้นาฬิกาชีวิตเกิดความสมดุล ประสิทธิภาพการนอนมีคุณภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ที่สำคัญช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต ฯลฯ
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ : การนอนไม่พอเป็นปัจจัยที่ทำให้หน้าโทรม อย่างน้อยควรนอนวันละ 7-9 ชั่วโมง และควรเข้านอนก่อนเวลา 24.00 น. เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน และหลั่งฮอร์โมนที่มีส่วนช่วยฟื้นฟูร่างกายครับ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ : การออกกำลังกายมีส่วนช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนเลือดในร่างกาย ทำให้หัวใจแข็งแรงมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวสดใสขึ้น ไม่โทรม โดยควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อเสริมความแข็งแรงให้ร่างกายครับ
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ : การดื่มน้ำเปล่าจะช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นไว้ได้ครับ และยังทำให้เลือดไหลเวียนดี ผิวไม่โทรม พร้อมช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย โดยควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอตามน้ำหนักตัวครับ
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน : หากมองหาว่าถ้าหน้าโทรมใช้อะไรดี ? ครีมกันแดดเป็นอีกหนึ่งในสกินแคร์รูทีนที่ควรทาเป็นประจำทุกวันครับ โดยควรทาปริมาณ 2 ข้อนิ้วมือเต็ม ๆ (วัดจากนิ้วชี้และนิ้วกลาง) เพื่อปกป้องผิวเมื่อต้องเผชิญแสงแดดจัดในแต่ละวัน
- ทาสกินแคร์บำรุงผิว : หน้าโทรมใช้อะไรดี จึงจะฟื้นฟูผิวโทรมได้ไว ? ผลิตภัณฑ์สกินแคร์สามารถช่วยกู้ปัญหาผิวโทรมได้ครับ หมอแนะนำให้มองหาสกินแคร์ที่มีส่วนผสม เช่น ไฮยาลูรอนิก แอซิด, วิตามินอี และเชียบัตเตอร์ ฯลฯ ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดด และมลภาวะต่าง ๆ
- มาส์กหน้ากู้ผิวโทรม : การมาส์กหน้าช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น พร้อมช่วยปรับผิวโทรมหมองคล้ำ ให้แลดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ โดยการมาส์กหน้าเพื่อฟื้นฟูผิวโทรม ควรทำสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวบางลงครับ
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ : การทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทุกหมู่มีผลต่อผิวพรรณครับ ยิ่งเป็นสารอาหารจำพวกวิตามิน เกลือแร่ จะช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง ปกป้องผิวไม่ให้เสียหายเมื่อโดนแสงแดดจัด นอกจากนี้การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพยังช่วยชะลอวัย ทำให้ผิวไม่โทรมไวขึ้น
คลิกอ่านเพิ่มเติม : หน้าโทรมกินอะไรดี ? เผยทริคการเลือกกินให้ผิวสวยหน้าใส ไม่โทรม
สรุปเรื่องหน้าโทรมใช้อะไรดี ทาครีมตัวไหนเห็นผล
ผิวหน้าโทรมใช้อะไรดี ? สามารถใช้ได้ทั้งครีมบำรุงหรือเซรั่มที่มีส่วนผสมจาก Vitamin C, AHA & BHA, Niacinamide, Retinol และ Peptide / Polypeptide ได้ครับ นอกจากการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมดังกล่าวแล้ว หมอแนะนำว่าควรใช้ครีมกันแดดควบคู่ไปพร้อมกันครับ เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ที่เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาผิวหน้าโทรม