Reef-Safe Sunscreen คืออะไร ? ต่างจากครีมกันแดดทั่วไปอย่างไร ?

ครีมกันแดด Reef-Safe Sunscreen คืออะไร

Reef-Safe Sunscreen

การใช้ครีมกันแดด Reef-Safe Sunscreen เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการปกป้องผิวจากรังสี UV พร้อมกับอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล อย่างเช่น แนวปะการัง หรือสิ่งมีชีวิตในทะเลครับ

ครีมกันแดด Reef-Safe Sunscreen คืออะไร ? ใช้แล้วส่งผลดีต่อระบบนิเวศทางทะเลอย่างไรบ้าง ? แตกต่างจากผลิตภัณฑ์กันแดดทั่วไปอย่างไร ? หมอสรุปข้อมูลมาให้แล้วครับ

คลิกอ่านหัวข้อ Reef-Safe Sunscreen


Reef-Safe คืออะไร ?

ครีมกันแดด Reef-Safe คือ ผลิตภัณฑ์กันแดดปกป้องผิวจากรังสี UV ที่ออกแบบมา เพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลโดยเฉพาะ เช่น ลดการเกิดปะการังฟอกขาว จากการที่มีสารเคมีปนเปื้อนน้ำทะเล

ซึ่งครีมกันแดดบางยี่ห้อ มักมีสารกันแดดที่เป็นอันตรายต่อแนวปะการังครับ เมื่อปะการังอ่อนสัมผัสกับสารกันแดดอย่าง Oxybenzone และ Octinoxate จะส่งผลทำให้ปะการังมีสีซีดลง รับสารอาหารได้ไม่เต็มที่ และเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

นอกจากนี้สารกันแดดที่ตกค้างในทะเล ยังส่งผลทำให้เกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว (Coral Bleaching) ได้ครับ


ทำไม Reef-Safe Sunscreen เป็นครีมกันแดด ที่ไม่ทำร้ายปะการัง ?

ครีมกันแดดทาหน้า ทาตัว Reef-Safe Sunscreen ไม่เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศทางทะเล เพราะปราศจากสารกันแดดที่เป็นอันตรายครับ

ซึ่งครีมกันแดด Reef-Safe จะไม่มีส่วนประกอบจากสารอันตรายอย่าง Oxybenzone (Benzophenone-3, BP-3), Octinoxate (Ethylhexyl methoxycinnamate), 4-Methylbenzylid Camphor (4MBC) และ Butylparaben จึงสามารถทาลงเล่นน้ำทะเลได้ โดยที่ไม่ส่งผลกระทบ หรือเกิดสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล

Reef-Safe Sunscreen

เหตุผลที่ควรใช้กันแดด Reef-Safe Sunscreen

เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทางทะเล

ครีมกันแดด Reef-Safe ขึ้นชื่อว่าเป็นมิตรกับปะการัง และสิ่งมีชีวิตในทะเลครับ เพราะการทากันแดดประเภทนี้ตอนลงทะเล จะไม่เกิดสารตกค้างในน้ำ สารกันแดดสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงไม่ส่งผลต่อแนวปะการังครับ

การใช้กันแดดแบบ Reef-Safe จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ทำกิจกรรมทางน้ำเป็นพิเศษ เช่น เล่นน้ำทะเล ดำน้ำ หรือเล่นกีฬาในน้ำ

ปกป้องผิวเมื่อทำกิจกรรมดำน้ำ เล่นน้ำทะเล

ในด้านของประสิทธิภาพการปกป้องผิว การใช้ครีมกันแดด Reef-Safe สามารถป้องกันรังสี UV จากแสงแดดได้ดี ไม่แพ้กับครีมกันแดดทั่วไปครับ

หากทาครีมกันแดดแบบถูกต้อง และเติมกันแดดซ้ำระหว่างวันเมื่อไปทะเล จะช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ได้ เช่น

ครีมกันแดดหน้า Reef Friendly Sunscreen

Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream SPF 40 PA+++

ครีมกันแดดหน้า Reef-Safe DR. V SQUARE Sunscreen Cream

ครีมกันแดดหน้า Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream มาพร้อม SPF 40 PA+++ ทาแล้วออกแดดได้ทันที ไม่ต้องรอนานหลายนาที เป็นครีมกันแดด Reef Friendly Sunscreen ที่เป็นมิตรต่อระบบนิเวศทางทะเล ไม่ทำร้ายแนวปะการัง หรือสิ่งมีชีวิตในทะเลในระยะยาวครับ

โดยผลิตภัณฑ์กันแดด Dr. V Square สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ปราศจากสารก่อระคายเคือง ปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ทุกคลื่นรังสี มีสาร Soothing Cooling จากประเทศเกาหลีใต้ ที่ช่วยป้องกันอาการแสบร้อน แสบผิว ผิวแดง เมื่อเผชิญแสงแดดจัดตอนไปทะเล ลดโอกาสการเกิดผิวไหม้แดดได้ครับ

ใช้ครีมกันแดดแล้วไม่แสบตา

หากมองหาครีมกันแดดที่ทาแล้วไม่แสบตา กันแดด Reef-Safe ถือว่าตอบโจทย์ครับ เพราะออกแบบมาสำหรับการปกป้องผิว ตอนทำกิจกรรมทางทะเลโดยเฉพาะ จึงมีคุณสมบัติกันน้ำ กันเหงื่อ

เมื่อหน้าสัมผัสแสงแดดจนเหงื่อออกไหลเข้าตา เราจะไม่รู้สึกแสบตา หรือระคายเคืองครับ เพราะครีมกันแดด Reef-Safe มักมีส่วนผสมอ่อนโยนอย่าง Titanium Dioxide หรือ Zinc-Oxide ที่ทำให้ไม่รู้สึกแสบตาแม้ว่าสารกันแดดจะไหลเข้าตาครับ ส่งผลให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ตอนไปทะเลได้อย่างมั่นใจ

ใช้ครีมกันแดด Reef-Safe แล้วไม่แสบตา
การใช้ครีมกันแดด Reef-Safe เวลาเหงื่อไหลเข้าตา จะไม่รู้สึกแสบตา

ช่วยลดโอกาสการเกิดผิวไหม้แดด

กันแดด Reef-Safe มักจะปกป้องผิวจากรังสี UVB อยู่แล้วครับ จึงช่วยลดโอกาสการเกิดผิวไหม้แดด (Sunburn) เมื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ตอนไปทะเลได้ เช่น เล่นกีฬา อาบแดด ดำน้ำ ฯลฯ

ข้อควรระวัง คือ เมื่อไปทะเล ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 40 ขึ้นไปเสมอครับ เพราะปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ดีกว่า นอกจากนี้ควรมองหากันแดด Reef-Safe Sunscreen ที่มีสารช่วยปกป้องผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และลดอาการแสบแดงหลังออกแดดเสมอครับ เช่น Soothing Cooling หรือ Aloe Vera


ครีมกันแดด Reef-Safe ปกป้องผิวได้ดีแบบกันแดดทั่วไปไหม ?

ครีมกันแดด Reef-Safe มีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UV ในแสงแดด ได้ดีเหมือนกับครีมกันแดดทั่วไปครับ เพียงแต่เราต้องเลือกกันแดดที่มีค่า SPF และ ค่า PA ให้เหมาะสม

หากทำกิจกรรมเมื่อไปทะเล เช่น เล่นน้ำทะเล ดำน้ำ เล่นกีฬา หรือนั่งริมชายหาด หมอแนะนำว่าควรเลือกครีมกันแดดค่า SPF40 PA+++ ขึ้นไป เพราะปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้ดีกว่า

นอกจากนี้ควรหมั่นทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงครับ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปกป้องให้ยาวนานขึ้น

กันแดด Reef-Safe กับ ครีมกันแดดทั่วไป
กันแดด Reef-Safe กับ ครีมกันแดดทั่วไป ปกป้องผิวจากรังสี UV ได้เหมือนกัน

วิธีเลือกครีมกันแดด Reef-Safe Sunscreen

แนวทางการเลือกครีมกันแดด Reef-Safe สำหรับทาตอนไปทะเล หมอขอแนะนำดังนี้

  • ครีมกันแดด Reef-Safe ต้องกันน้ำ กันเหงื่อ
  • มีค่า SPF 40 ขึ้นไป และมีค่า PA 3+ ขึ้นไป
  • มีการระบุชัดเจนว่าเป็น Reef-Safe Sunscreen หรือ Reef Friendly Sunscreen
  • เช็กว่าไม่มีสารกันแดดที่เป็นอันตรายต่อปะการัง ตามประกาศของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้แก่
    • Oxybenzone (Benzophenone-3, BP-3)
    • Octinoxate (Ethylhexyl methoxycinnamate)
    • 4-Methylbenzylid Camphor (4MBC)
    • Butylparaben
  • เนื้อครีมกันแดดบางเบา เกลี่ยง่าย แห้งซึมเข้าผิวไว
  • สามารถเติมกันแดดซ้ำระหว่างวันได้

ความแตกต่างครีมกันแดดทั่วไป VS กันแดด Reef-Safe

ความแตกต่างของครีมกันแดดทั่วไป กับ ครีมกันแดด Reef-Safe มีดังนี้ครับ

ครีมกันแดดทั่วไป เช่น ประเภทครีมกันแดด Chemical Sunscreen มักมีส่วนประกอบสารกันแดดที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตทางทะเลครับ เช่น Oxybenzone หรือ Octinoxate เมื่อสารกันแดดสัมผัสกับน้ำทะเล จะทำให้เกิดสารตกค้าง ในระยะยาวจะส่งผลต่อแนวปะการัง

ส่วนครีมกันแดด Reef-Safe เป็นครีมกันแดดที่ปลอดสารอันตรายดังกล่าว ทาแล้วลงเล่นน้ำทะเลได้ ไม่เกิดสารตกค้างในทะเล จึงช่วยลดการเกิดผลกระทบต่อปะการัง และสิ่งมีชีวิตในทะเลครับ


สรุปเรื่อง Reef-Safe Sunscreen

การใช้ครีมกันแดด Reef-Safe Sunscreen เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องทาครีมกันแดดตอนไปทะเลครับ เนื่องจากทาแล้วลงเล่นน้ำทะเลได้ โดยไม่เป็นอันตรายต่อปะการัง ที่สำคัญ คือ ยังสามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้ เหมือนกับการทาครีมกันแดดทั่วไป

หากต้องการปกป้องผิวจากรังสี UV เมื่อไปทะเล หมอจึงขอแนะนำให้มองหาผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด Reef-Safe ที่มีค่า SPF 40 PA+++ ขึ้นไป ก็จะตอบโจทย์การปกป้องผิวได้ดีกว่า และยังไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมทางทะเลเพิ่มด้วยครับ