ฝนตกต้องทากันแดดไหม

ฝนตกต้องทากันแดดไหม

ช่วงหน้าฝน ฟ้าครึ้ม แดดไม่ออก ฝนตกต้องทากันแดดไหม ? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยครับ เพราะในช่วงที่ฝนตกบ่อย ๆ สภาพอากาศจะอึมครึม แดดไม่แรง การทาครีมกันแดดจึงเป็นเรื่องที่อาจถูกมองข้าม เพราะคิดว่าไม่มีรังสี UV ที่ทำร้ายผิว

ในบทความนี้หมอสรุปข้อมูลให้แล้วครับ ว่าฝนตกต้องทากันแดดไหม ? การทาครีมกันแดดในช่วงเวลาที่ฟ้าครึ้ม ๆ จำเป็นหรือไม่ ? และรังสี UV ที่ดูเหมือนว่าจะไม่แรง สามารถทำร้ายผิวได้ไหม ? ติดตามอ่านกันได้ครับ

คลิกอ่านหัวข้อ ฝนตกต้องทากันแดดไหม


หน้าฝนควรทาครีมกันแดดไหม ?

แม้ว่าจะเข้าสู่ช่วงหน้าฝน ก็ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันในช่วงเช้าก่อนออกจากบ้านครับ แม้ว่าสภาพอากาศจะดูเหมือนฝนตกและไม่มีแดดก็ตาม

นอกจากนี้ ยังควรทาครีมกันแดดซ้ำระหว่างวันเสมอ เมื่อจำเป็นต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดด อย่างน้อย 15-30 นาที หรือตามระยะเวลาที่ผลิตภัณฑ์กันแดดแนะนำ

ซึ่งในปัจจุบันมีครีมกันแดดหลายยี่ห้อเลยครับ ที่สามารถทาแล้วออกแดดได้ทันที โดยที่ไม่จำเป็นต้องรอให้ครีมกันแดดเซ็ตตัว

หน้าฝนควรทาครีมกันแดดไหม
ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน แม้ในวันที่ฝนตก

ฟ้าครึ้ม ไม่มีแดด ฝนตกต้องทากันแดดไหม จำเป็นหรือไม่ ?

ฟ้าครึ้ม แดดไม่ออก ฝนตกต้องทากันแดดไหม ? คำตอบคือ จำเป็นต้องทาครีมกันแดดเสมอครับ ไม่ว่าจะเผชิญอยู่ในสภาพอากาศแบบไหนก็ตาม

เพราะในช่วงเวลาที่ฟ้าครึ้ม ฝนตั้งเค้าทำท่าเหมือนจะตก รังสี UV จากแสงแดดยังคงอยู่ไม่หายไปไหนครับ และแน่นอนว่าสามารถทำร้ายผิวเราได้ นอกจากนี้ การทาครีมทาครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวจากแสงสีฟ้า ที่มาจากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงรังสี UVC ที่มาจากหลอดไฟ และอุปกรณ์เครื่องใช้บางอย่างได้ครับ

ฉะนั้นแล้ว การทาครีมกันแดดยังจำเป็นแม้ในวันที่ไม่มีแดด ฟ้าครึ้ม


ฝนตกมีแสง UV ไหม ?

แม้ในวันที่ฝนตกจะไม่มีแสงแดด แต่รังสีอัลตราไวโอเลต หรือ รังสี UV ที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ยังคงมีและหลงเหลืออยู่ครับ จึงมีโอกาสที่รังสี UVA และ รังสี UVB จะทำร้ายผิวได้ จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผิวสะสม และส่งผลเสียต่อผิวในระยะยาว

อ่านบทความแนะนำเพิ่มเติม

ใช้ครีมกันแดดช่วงหน้าฝน ช่วยปกป้องผิวจากรังสีชนิดใด ?

การใช้ครีมกันแดดช่วงหน้าฝน ช่วยปกป้องผิวจากรังสีต่าง ๆ ในแสงแดด ดังนี้

  • รังสี UVA มีคลื่นความยาวสูงสุดประมาณ 320 – 400 นาโนเมตร มักพบได้มากกว่ารังสี UV ประเภทอื่นถึง 75% ซึ่งรังสี UVA 1 / UVA 2 ทำร้ายผิวได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) แม้ว่าจะอยู่ในร่ม แต่รังสี UVA สามารถทะลุผ่านวัตถุที่เป็นกระจกแล้วทำร้ายผิวได้ ส่งผลให้เกิดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอยก่อนวัย ฯลฯ
  • รังสี UVB มีคลื่นความยาวระดับปานกลาง อยู่ที่ 290 – 320 นาโนเมตร มีคลื่นพลังงานที่น้อยกว่ารังสี UVA สามารถทำร้ายผิวชั้นนอกอย่างผิวหนังชั้นกำพร้า (Epidermis) ให้เกิดการแปรสภาพ เช่น เกิดการระคายเคืองผิว ผิวแสบ ผิวแดง ผิวไหม้ ผิวคล้ำ ฯลฯ
ฝนตกต้องทากันแดด ป้องกันรังสี UV
การทาครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
  • รังสี UVC เป็นคลื่นรังสีที่ไม่สามารถส่องมายังโลกได้ เพราะถูกชั้นโอโซนดูดซับไว้ แต่มักพบรังสี UVC จากการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น แสงจากหลอดไฟ การใช้ตู้อบฆ่าเชื้อ ฯลฯ หากขาดการปกป้องผิวที่ดีพอ รังสียูวีซีจะทำให้ผิวและดวงตาเกิดการระคายเคือง
  • แสงสีฟ้า (Blue light) มีทั้งที่มาจากดวงอาทิตย์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น หน้าจอคอมพิวเตอร์ มือถือ แท็บแลต ฯลฯ โดยแสงสีฟ้าเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวโทรม เกิดความหมองคล้ำ พร้อมทั้งกระตุ้นการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำได้ครับ
  • รังสีอินฟราเรด (Infrared) เป็นคลื่นความร้อนที่มาจากดวงอาทิตย์ โดยเราสามารถสัมผัสความร้อนดังกล่าวได้โดยตรง รังสี Infrared มีส่วนกระตุ้นให้คอลลาเจนผิวเสื่อมสภาพลง ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อย ขาดความชุ่มชื้น มีผิวโทรมตามมา

ครีมกันแดดทาหน้า Water Resistant
Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream SPF 40 PA+++

ส่วนผสมกันแดด dr.vsq กันน้ำ กันเหงื่อ
กันแดด dr.vsq กันน้ำ กันเหงื่อช่วงหน้าฝน

ครีมกันแดดทาหน้า Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream มาพร้อมค่า SPF 40 PA+++ ปกป้องผิวจากแสงแดดได้ทุกคลื่นรังสี ครอบคลุมรังสี UVA1, UVA2, UVB, UVC, Blue light และ Infrared สารกันแดดมีความคงตัวสูงนำเข้าจากประเทศเยอรมัน ป้องกันการดูดซับ การสะท้อน และการกระเจิงได้ภายในเนื้อครีมเดียว

ครีมกันแดด Dr. V Square เป็นสูตร Water Resistant กันน้ำ กันเหงื่อได้ 4-6 ชั่วโมง สามารถทาซ้ำได้ทุก 4 ชั่วโมง ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้ว่าจะมีผิวบอบบางแพ้ง่าย นอกจากนี้ ยังมีสารสกัด Soothing Cooling นำเข้าจากเกาหลีใต้ ที่ช่วยปลอมประโลมผิว ไม่ให้รู้สึกแสบผิวขณะที่ต้องเผชิญแสงแดดจัด


ทากันแดดช่วงหน้าฝน ไม่มีแดด ช่วยป้องกันปัญหาผิวอะไรบ้าง ?

การทาครีมกันแดดช่วงหน้าฝน สามารถป้องกันการเกิดปัญหาผิว ที่มีสาเหตุจากรังสี UVA, UVB, Blue light และ Infrared ได้ดังนี้

  • ผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ

ปัญหาหน้าหมองคล้ำเกิดจากรังสี UV ในแสงแดดครับ ไม่ว่าจะเป็นรังสี UVA หรือ UVB ย่อมส่งผลทำให้ผิวที่ไม่ได้ทาครีมกันแดด หรือทากันแดดไม่ดีพอในช่วงหน้าฝน เกิดความหมองคล้ำ และมีสีผิวไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอได้ เพราะผิวชั้นนอกสุดโดนรังสี UV ที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่าทำร้าย

ซึ่งการใช้ครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวชั้นนอกไม่ให้คล้ำเสีย หรือเกิดความหมองคล้ำ แต่จำเป็นจะต้องทาครีมกันแดดอย่างถูกวิธี ในปริมาณที่เหมาะสมด้วยครับ

อ่านบทความแนะนำเพิ่มเติม

  • ผิวหน้าโทรม ไม่มีราศี

ช่วงที่ฝนตั้งเค้า แดดไม่ออก หากชะล่าใจไม่ทาครีมกันแดด มีโอกาสที่ผิวจะถูกรังสี UV ทำร้ายผิวจนเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ส่งผลให้ภาพรวมของใบหน้าไม่มีราศี ผิวไม่สดใส และหน้าโทรมได้

การใช้ครีมกันแดดเป็นประจำหลังลงสกินแคร์บำรุงผิว จะช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ เมื่อมีปัญหาผิวน้อยลง จะทำให้ภาพรวมของใบหน้าดูดีขึ้น ยิ่งทำควบคู่ไปกับการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี จะยิ่งเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นครับ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : บอกลาหน้าโทรม หมองคล้ำ ด้วยวิธีกู้ผิวโทรม คืนความสดใสให้ใบหน้า

  • ฝ้า กระ จุดด่างดำ

รังสี UVA เป็นตัวการหลักที่ทำให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ แม้ว่าปัญหาผิวเหล่านี้จะไม่เกิดทันที แต่มีโอกาสที่ผิวจะเกิดฝ้าแดด กระแดด และจุดด่างดำ เมื่อมีอายุเพิ่มขึ้นได้ บางคนหลังอายุ 25 ก็เริ่มมีปัญหาผิวเหล่านี้แล้วครับ

ฉะนั้นแล้ว การทาครีมกันแดดทุกวัน แบบที่ไม่เว้นการทาแม้จะเป็นช่วงฤดูฝน จะช่วยลดโอกาสการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำได้ เพราะครีมกันแดดจะช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติ จากการถูกรังสี UV กระตุ้นครับ

ฝนตกต้องทากันแดดไหม ควรทาป้องกันฝ้า กระ จุดด่างดำ
ฝ้า กระ จุดด่างดำ มีสาเหตุหลักมาจากรังสี UVA
  • ริ้วรอยก่อนวัย

รังสียูวีเอเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยก่อนวัย นั่นเป็นเพราะว่ารังสี UVA สามารถทำร้ายผิวได้ถึงชั้นผิวหนังแท้ ทำให้เกิดการทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อยได้ง่ายขึ้น ขาดความยืดหยุ่น ผิวไม่เต่งตึง จนทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า

โดยการทาครีมกันแดดจะช่วยลดโอกาสไม่ให้รังสี UVA ทำร้ายผิวได้ถึงชั้นผิวหนังแท้ ส่งผลให้คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวเสื่อมสภาพช้าลง

  • การเกิดสิวอักเสบ

รังสี UV จากแสงแดด เป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นการเกิดสิวครับ เพราะผิวหน้าที่มีความมันเป็นทุนเดิม เมื่อสัมผัสกับรังสี UV ในแสงแดด จะทำให้ผิวผลิตน้ำมันออกมาเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ เมื่อผิวสัมผัสกับมลภาวะ ก็จะทำให้ผิวอุดตันจนเกิดสิวขึ้น นอกจากนี้ ยังมีส่วนทำให้สิวอุดตันกลายเป็นสิวอักเสบได้

การทาครีมกันแดดจึงมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดสิวเพิ่ม จากการถูกรังสี UV กระตุ้นครับ ทำให้ผิวมีเกราะป้องกันที่แข็งแรง สามารถสู้แดดจัดได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น

คลิกอ่านเพิ่มเติม : เป็นสิวทากันแดดได้ไหม ? สิวขึ้นหรือไม่ ? เลือกครีมกันแดดอย่างไรไม่ให้อุดตัน

  • ผิวไหม้แดด (Sunburn)

ปัญหาผิวไหม้แดด มีสาเหตุหลักมาจากรังสี UVB โดยผิวที่ไม่ได้ทาครีมกันแดด หรือทากันแดดในปริมาณที่ไม่เพียงพอ มีโอกาสที่จะรู้สึกแสบผิว ผิวแดง ผิวไหม้ได้ เมื่อต้องเผชิญแสงแดดเป็นเวลานานครับ

ฝนตกทากันแดดได้ไหม ใช้ครีมอะไรได้บ้าง
ผลิตภัณฑ์ครีมที่สามารถทาได้ในช่วงผิวไหม้แดด

ซึ่งผิวแต่ละคนจะสามารถทนทานต่อแสงแดดได้ต่างกัน บางคนตากแดด 10 นาที ก็ผิวไหม้แดดแล้ว ในขณะที่บางคนต้องใช้เวลากว่า 30 นาที จึงจะเริ่มมีอาการ การทาครีมกันแดดจะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวไหม้แดดได้ง่าย สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ในเวลาที่นานขึ้น โดยไม่รู้สึกแสบผิว

  • โรคที่เกิดจากแสงแดด

การทาครีมกันแดดเป็นประจำแม้ว่าจะเป็นช่วงหน้าฝน มีส่วนช่วยลดโอกาสการเป็นโรคที่เกิดจากแสงแดดได้ครับ เช่น โรคมะเร็งผิวหนัง โรคแพ้แสงแดด โรคต้อลม / ต้อเนื้อ ฯลฯ เพราะนอกจากรังสี UV จะทำให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมาได้แล้ว หากผิวไม่ได้ทาครีมกันแดดติดต่อกันเป็นเวลานาน ในระยะยาวยังมีโอกาสทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ที่มาจากแสงแดดเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้นได้


แนวทางการเลือกครีมกันแดดในช่วงหน้าฝน

หมอขอแนะนำแนวทางการเลือกครีมกันแดด สำหรับใช้ในช่วงหน้าฝน ดังนี้

แนวทางการเลือกครีมกันแดดในช่วงหน้าฝน
ครีมกันแดด Water Resistant สำหรับทาช่วงหน้าฝน
  • มีคุณสมบัติกันน้ำ กันเหงื่อ หรือมีการระบุว่าเป็นกันแดด Water Resistant
  • มีการระบุระยะเวลาชัดเจน ว่ากันน้ำ กันเหงื่อได้กี่ชั่วโมง
  • มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และมีค่า PA 3+ ขึ้นไป เช่น PA+++ หรือ PA++++
  • สามารถปกป้องผิวจากรังสีในแสงแดดได้ทุกคลื่นรังสี ไม่ว่าจะเป็น UVA 1, UVA 2, UVB, UVC, Blue light และ Infrared
  • มีส่วนช่วยป้องกันการดูดซับ การสะท้อน และการกระเจิงของรังสี UV
  • ครีมกันแดดเป็นสูตรอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดสิว หรือการระคายเคือง
  • มีเนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย ทาแล้วไม่หนักหน้า

ช่วงหน้าฝน ควรเติมกันแดดซ้ำบ่อยแค่ไหน ?

การทาครีมกันแดดซ้ำในช่วงหน้าฝน หมอแนะนำว่าหากเป็นไปได้ควรเติมกันแดดซ้ำระหว่างวันทุก 1-2 ชั่วโมงครับ โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานนอกตัวอาคารที่มีโอกาสเสี่ยงโดนน้ำฝนสัมผัสผิว เพื่อเสริมประสิทธิภาพครีมกันแดดให้ปกป้องผิวได้ดียิ่งขึ้น เพราะมีโอกาสที่ผิวอาจจะโดนน้ำฝน จนทำให้ชั้นฟิล์มกันแดดเคลือบผิวบางลงได้

แต่สำหรับคนที่ทำงานในอาคาร ควรทาครีมกันแดดซ้ำระหว่างวันในช่วงหน้าฝนทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า รวมถึงปกป้องผิวจากแสง UVC และแสงสีฟ้าที่มาจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์


สรุปเรื่องฝนตกต้องทากันแดดไหม

ฝนตกต้องทากันแดดไหม ? คำตอบคือ ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ เหมือนกับวันปกติที่ฝนไม่ตกครับ เพราะในช่วงเวลาที่ฟ้าครึ้ม แดดไม่ออก รังสี UV ที่มองไม่เห็นได้ด้วยเปล่า ยังสามารถทำร้ายผิวเราได้เช่นเดิม ฉะนั้นแล้ว การทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านในตอนเช้า และการทากันแดดซ้ำระหว่างวัน จึงมีความจำเป็นในช่วงหน้าฝน เพื่อลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวสะสมครับ

อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2568

Share: