ทำไมต้องทากันแดด ? ครีมกันแดดสำคัญกับการปกป้องผิวอย่างไร ?

ทำไมต้องทากันแดด ครีมกันแดดสำคัญกับการปกป้องผิวอย่างไร

ทำไมต้องทากันแดด

รังสี UV ในแสงแดดทำร้ายผิวได้มากกว่าที่คิดครับ การทาครีมกันแดดจึงเป็นวิธีปกป้องผิวที่ง่ายและเร็วที่สุด ​​ทำไมต้องทากันแดด ? ความสำคัญของครีมกันแดดมีอะไรบ้าง ? จำเป็นต้องทากันแดดทุกวันหรือไม่ ? รังสียูวีทำร้ายผิว ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวอย่างไร ? หมอได้สรุปข้อมูลไว้ในบทความนี้ครับ

คลิกอ่านหัวข้อ ทำไมต้องทากันแดด


ครีมกันแดดจำเป็นไหม ? ควรทาทุกวันหรือไม่ ?

การทาครีมกันแดดจำเป็นครับ ควรทากันแดดปกป้องผิวหน้าและผิวกายทุกวัน โดยทาเป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังจากลงสกินแคร์บำรุงผิวครบทุกตัวแล้ว

หมอแนะนำว่าให้ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน ทำให้เป็นหนึ่งใน Skincare Routine เพื่อให้ครีมกันแดดปกป้องผิวจากรังสี UV ในแสงแดด เพราะรังสีอัลตราไวโอเลตเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมา เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอยก่อนวัย ฯลฯ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ทาครีมกันแดดก่อน หรือ หลังครีมบํารุง ? พร้อม 8 Step ลงสกินแคร์ที่ถูกต้อง


รังสี UV ในแสงแดด ทำร้ายผิวเราอย่างไร ?

รังสี UV ในแสงแดดเป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาผิวครับ โดยรังสียูวีแต่ละประเภทจะส่งผลกระทบต่อผิวเราแตกต่างกัน ดังนี้

  • รังสี UVA มีคลื่นความยาวสูงสุด สามารถทะลุวัตถุ เช่น กำแพงกระจก ลงไปทำร้ายชั้นผิวหนังเราได้แม้อยู่ในร่มครับ ส่งผลทำให้ผิวเหี่ยวย่น มีริ้วรอยก่อนวัย เกิดฝ้าแดด กระแดด จุดด่างดำ ผิวหน้าหมองคล้ำ
  • รังสี UVB แม้จะมีคลื่นความยาวสั้นกว่ารังสี UVA แต่ส่งผลทำให้ผิวไหม้แดด (Sunburn) รู้สึกแสบร้อน ระคายเคืองผิว หรือมีอาการปวดแสบผิวได้ครับ
  • รังสี UVC ในแสงแดด มีคลื่นความยาวสั้น ไม่สามารถทะลุผ่านชั้นบรรยากาศได้ แต่หากสัมผัสกับแสงรังสี UVC ที่มาจากเครื่องรังสีโดยตรง จะส่งผลทำให้ระคายเคืองผิวและดวงตาครับ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : รังสี UVA และ UVB คืออะไร ? แตกต่างกันอย่างไร ? อันตรายกับผิวมากกว่าที่คิด

ทำไมต้องทากันแดด เพราะรังสี UVA UVB ทำร้ายผิว
เปรียบเทียบความแตกต่างชั้นผิว ที่ถูกรังสี UVA / UVB ทำร้าย

ทำไมต้องทากันแดด มีความสำคัญอย่างไร ?

การใช้ครีมกันแดดปกป้องผิวจากรังสี UV และเป็นการดูแลปกป้องผิวที่ง่ายที่สุดครับ หมอได้สรุปประโยชน์ของครีมกันแดด เอาไว้ดังนี้

ปกป้องผิวจากรังสี UV ในแสงแดด

ในแสงแดดประกอบไปด้วยรังสี UVA และ UVB โดยรังสีทั้ง 2 ประเภทนี้ เป็นปัจจัยหลักที่ทำร้ายผิวเราจนเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมาครับ ยิ่งเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ ค่า PA สูง ก็เพิ่มโอกาสการปกป้องผิวจากรังสี UV ให้ยาวนานขึ้น

โดยควรเลือกครีมกันแดดค่า SPF 30 ขึ้นไป และ ค่า PA 3+ ขึ้นไป เพราะจะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV โดยเฉพาะแดดประเทศไทย ได้ดีกว่าครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ ค่า PA ต่ำกว่านี้ครับ

เพิ่มเกราะป้องกันให้ผิวพร้อมสู้แดด

หลังทาครีมกันแดดปกป้องผิวหน้า ผิวกาย สารกันแดดจะทำงานด้วยการยึดเกราะผิวครับ เสมือนกับผิวเราถูกเคลือบด้วยชั้นฟิล์ม จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมต้องทากันแดดก่อนออกไปเผชิญแสงแดดจัด อย่างน้อย 15-30 นาที เพราะต้องรอครีมกันแดดเซ็ตตัวก่อน จึงจะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

แต่ในยุคนี้มีผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดหลายแบรนด์ ที่ทาแล้วออกแดดได้ทันที โดยที่ไม่ต้องรอครีมกันแดดเซ็ตตัวนานครับ

ครีมกันแดดหน้า ทาแล้วออกแดดได้เลย ไม่ต้องรอ
Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream SPF 40 PA+++

DR. V SQUARE Sunscreen Cream

ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดทาหน้า Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream เป็นกันแดด Hybrid Sunscreen ที่มีสารกันแดดคงตัวสูง สารสกัดนำเข้าจากเยอรมันและเกาหลีใต้ ช่วยเสริมเกราะปกป้องผิวจากรังสีทุกรูปแบบ เช่น UVA, UVB, แสงสีฟ้า และ อินฟราเรด มาพร้อมค่า SPF 40 PA+++ เหมาะกับการทาในชีวิตประจำวัน ทาแล้วลุยแดดจัด ทำกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างมั่นใจ

ที่สำคัญกันแดดสูตรนี้ทางหมอ Dr. V Square ได้พัฒนาสูตรให้ใช้ได้ทุกสภาพผิวครับ ผิวบอบบางแพ้ง่ายใช้ได้ ปลอดสารอันตรายไม่ก่อให้เกิดสิว ทาแล้วออกแดดได้เลยไม่ต้องรอครีมเซ็ตตัว เนื้อสัมผัสเกลี่ยง่าย บางเบา ไม่ต้องทาซ้ำบ่อย เพราะทาได้ทุก 4 ชั่วโมง พร้อมป้องกันการสะท้อน การกระเจิง และการดูดซับ ได้ภายในเนื้อเดียวอย่างครบครัน

ลดการเกิดฝ้าแดด กระแดด จุดด่างดำ

รังสี UVA เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหน้าเกิดฝ้าแดด จุดด่างดำ และกระแดด

โดยฝ้าแดด และ กระแดด จะเกิดขึ้นเมื่อผิวสัมผัสกับรังสี UV ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ซึ่งรังสียูวีในแสงแดดจะกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานินที่เซลล์ใต้ผิวหนังเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผิวบริเวณดังกล่าวมีสีเข้มขึ้น เกิดเป็นรอยปื้นสีน้ำตาล สีเทาม่วง สีแดง ไปจนถึงสีดำ ที่เรียกว่า ‘ฝ้าแดด’ แต่หากเป็นดวงจุดสีน้ำตาลเล็กจะเรียกว่า ‘กระแดด

ส่วนการเกิดจุดด่างดำจะเป็นรอยบนผิว ที่มักเกิดจากการอักเสบของผิวหนังครับ ซึ่งมีสาเหตุมาจากรังสี UV ในแสงแดดด้วยเช่นกัน

ความสำคัญของครีมกันแดด ลดการเกิดฝ้า กระ
ความสำคัญของครีมกันแดด ลดการเกิดฝ้า กระ

ป้องกันผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ

ความสำคัญของครีมกันแดดที่มองข้ามไม่ได้ คือ ช่วยปกป้องผิวหมองคล้ำจากแสงแดดครับ

เมื่อผิวเผชิญแสงแดดจัดติดต่อกัน จะสังเกตเห็นได้ง่ายมากว่าผิวจะคล้ำขึ้น บางจุดที่สัมผัสแสงแดดมากเป็นพิเศษ ก็จะมีผิวเข้มขึ้นกว่าบริเวณอื่น ๆ ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำ มีสีผิวไม่เสมอเสมอ เพราะรังสี UV ทำร้ายผิว ส่งผลให้หน้าหมองคล้ำขึ้น แลดูหน้าโทรม ผิวพรรณไม่สดใส

คลิกอ่านเพิ่มเติม : 10 วิธีแก้ ผิวหน้าหมองคล้ำ บอกลาหน้าไม่มีราศรี พร้อมเพิ่มความกระจ่างใส

ป้องกันการเกิดสิวอักเสบ

รังสี UV ในแสงแดด เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผิวหน้าเกิดสิวครับ

เพราะผิวหน้าที่ไม่ได้ทาครีมกันแดด จะสัมผัสกับรังสี UV รวมถึงมลภาวะต่าง ๆ โดยตรง เช่น ฝุ่น ควัน เมื่อมลภาวะเหล่านี้สัมผัสกับผิวหน้าที่มีความมันบนผิว จะทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน จนเกิดเป็นสิวอุดตันตามมาครับ

เมื่อสิวอุดตันถูกกระตุ้นด้วยมลภาวะ การผลิตน้ำมันบนผิวที่มากเกินไป หรือถูกรบกวนผิวบริเวณรูขุมขน จะทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวเกิดการอักเสบ จนพัฒนาจากสิวอุดตันกลายเป็นสิวอักเสบตามมาครับ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องทากันแดดเป็นประจำ เพราะจะช่วยลดโอกาสการเกิดสิวได้ครับ

กันแดดสำคัญยังไง ช่วยป้องกันสิวอักเสบ
ทาครีมกันแดดช่วยลดโอกาสสิวอุดตันพัฒนาเป็นสิวอักเสบ

ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

การไม่ทาครีมกันแดด หรือ ทากันแดดในปริมาณไม่เพียงพอ เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ครับ โดยริ้วรอยสามารถเกิดหลายจุด ซึ่งจุดที่หลายคนเป็นกังวล เช่น บริเวณหน้าผาก ร่องแก้ม หางตา ใต้ตา คิ้ว เพราะทำให้สูญเสียความมั่นใจครับ

ปัจจัยอีกอย่างที่ทำให้ริ้วรอยเกิดไวขึ้น คือ การไม่ทาครีมกันแดด หรือไม่ได้เติมกันแดดระหว่างวัน ในวันที่ต้องเผชิญแสงแดดจัด โดยรังสี UV จะทำลายโครงสร้างผิวและคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่น อ่อนแอ จึงง่ายต่อการเกิดริ้วรอยไวขึ้นครับ จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมต้องทากันแดดเป็นประจำเสมอ

ลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งผิวหนัง

ความสำคัญของกันแดดอีกข้อที่เห็นผลในระยะยาว คือ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง (Skin Cancer) โดยผิวที่ไม่ทากันแดดจะสัมผัสกับรังสียูวีโดยตรง ส่งผลให้รังสี UV จะเข้าไปทำลาย DNA (Genotoxic) ทีละนิด ๆ ครับ จึงเพิ่มโอกาสเกิดมะเร็งผิวหนังตามมาได้ หากไม่ทาครีมกันแดดปกป้องผิวเป็นประจำ

เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนังในระยะยาว จึงควรทากันแดดตอนเช้าก่อนออกจากบ้านเสมอ พร้อมทาครีมกันแดดซ้ำระหว่างวัน เมื่อต้องออกไปเผชิญแสงแดดจัดครับ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ครีมกันแดดทาตอนไหน เห็นผลดีที่สุด พร้อมตอบคำถามก่อนทากันแดด

การเลือกกันแดดสำคัญไหม ส่งผลยังไง
การเลือกครีมกันแดด ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปกป้องผิว

ความสำคัญของการเลือกครีมกันแดด ?

การเลือกครีมกันแดดส่งผลต่อประสิทธิภาพการปกป้องผิวครับ หากเลือกครีมกันแดดที่มีคุณภาพ และเหมาะกับสภาพผิว จะยิ่งช่วยปกป้องผิวเราได้ดี โดยลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวตามมา

หมอขอแนะนำแนวทางเลือกครีมกันแดด ดังนี้

  • เลือกเนื้อสัมผัสกันแดดเหมาะกับสภาพผิว เช่น
    • ผิวมัน : ควรใช้ครีมกันแดดเนื้อเจล เพราะเกลี่ยง่าย บางเบา
    • ผิวผสม : ใช้กันแดดได้ทั้งเนื้อเจล และ เนื้อครีม
    • ผิวแห้ง : ควรใช้กันแดดเนื้อครีม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
    • ผิวแพ้ง่าย บอบบาง : ใช้กันแดดได้ทุกเนื้อสัมผัส เน้นเป็นสูตรอ่อนโยน หรือที่ระบุว่า Non Comedogenic เพราะใช้แล้วไม่ก่อให้เกิดสิว
  • ใช้ครีมกันแดดค่า SPF 30 ขึ้นไป และ มีค่า PA3+
  • ซื้อผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดจากร้าน Official หรือ ร้านจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ
  • เลือกครีมกันแดดที่มีอายุการใช้งาน หรือการเก็บรักษาคงเหลือมากกว่า 3 เดือนขึ้นไป

คลิกอ่านเพิ่มเติม : วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดด เช็กอย่างไร ? พร้อมวิธีสังเกตด้วยตัวเอง


สรุปเรื่องทำไมต้องทากันแดด

ทำไมต้องทากันแดด สาเหตุหลักก็เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ที่เป็นปัจจัยหลักของการเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ครับ ความสำคัญของการทาครีมกันแดดจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรข้าม และควรทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน โดยให้เป็นหนึ่งใน Skincare Routine หากหมั่นทากันแดดเป็นประจำ พร้อมทาครีมกันแดดซ้ำระหว่างวัน จะช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวในอนาคตได้แน่นอนครับ