ครีมกันแดด SPF 50 อยู่ได้กี่ชั่วโมง ? ปกป้องผิวได้นานไหม ?

ครีมกันแดด SPF 50 อยู่ได้กี่ชั่วโมง ปกป้องผิวได้นานไหม

SPF 50 อยู่ได้กี่ชั่วโมง

กันแดด SPF 50 เป็นค่าการปกป้องผิวจากรังสี UVB ที่พบได้บ่อยในผลิตภัณฑ์กันแดดครับ แล้วครีมกันแดด SPF 50 อยู่ได้กี่ชั่วโมง ? ปกป้องผิวได้นานไหม ? ใช้แล้วมีโอกาสเกิดการระคายเคืองผิวหรือไม่ ? ในบทความนี้หมอได้สรุปข้อมูลมาให้แล้วครับ

คลิกอ่านหัวข้อ SPF 50 อยู่ได้กี่ชั่วโมง


SPF 50 คืออะไร ?

SPF 50 คือ ค่า SPF ที่บ่งบอกว่าครีมกันแดดยี่ห้อนั้น ๆ ปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้มากกว่าผิวปกติที่ไม่ทาครีมกันแดดถึง 50 เท่า เฉลี่ยแล้วประมาณ 98%

ค่า SPF ในครีมกันแดด
ตารางแสดงค่า SPF และประสิทธิภาพการปกป้อง

โดยรังสี UVB เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวไหม้แดด (Sunburn) ส่งผลให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนผิว รู้สึกระคายเคือง หลังจากเผชิญแสงแดดจัดไปแล้ว 1-3 วัน บางรายที่มีอาการรุนแรง จะมีอาการคัน และมีตุ่มน้ำใส ๆ ร่วมด้วย

ซึ่งการเลือกผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด SPF 50 จะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVB ที่เป็นต้นเหตุการเกิดผิวไหม้แดดได้ครับ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : รังสี UVA และ UVB คืออะไร ? แตกต่างกันอย่างไร ? อันตรายกับผิวมากกว่าที่คิด


ครีมกันแดด SPF 50 อยู่ได้กี่ชั่วโมง ?

โดยเฉลี่ยแล้วผิวคนเราจะเริ่มเกิดอาการไหม้แดดภายใน 10 นาที หากเผชิญแสงแดดจัดโดยที่ไม่ทากันแดด

SPF กันแดดได้นานกี่ชั่วโมง
การคำนวณระยะเวลาที่ครีมกันแดด SPF 50 ปกป้องผิว

หมอได้สรุปวิธีการคิดคำนวณว่า SPF 50 อยู่ได้กี่ชั่วโมง ? ปกป้องผิวได้นานไหม ? เอาไว้ดังนี้

ค่า SPF x ระยะเวลาที่ผิวทนต่อแสงแดด (นาที) = ระยะเวลาที่ครีมกันแดดปกป้องผิว (นาที)

ฉะนั้นแล้ว ครีมกันแดด SPF 50 สามารถปกป้องผิวได้นานประมาณ 8 ชั่วโมง 20 นาที (50 x 10 = 500 นาที) แต่ทั้งนี้ต้องทาครีมกันแดดในปริมาณที่เหมาะสมด้วยครับ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : วิธีทากันแดดที่ถูกต้อง สำหรับผิวหน้า – ผิวกาย ให้ผิวสวยห่างไกลจากแสงแดด

SPF 50 กับ SPF 50+ ปกป้องผิวต่างกันหรือไม่ ?

กันแดด SPF 50 ปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ 98%
ส่วนค่า SPF 50+ ปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้มากกว่า 98% ขึ้นไปครับ

แต่ไม่ได้มีการระบุอย่างชัดเจน ว่าผลิตภัณฑ์กันแดดยี่ห้อนั้น ๆ มีค่า SPF เท่าไร อาจจะเป็นค่า SPF 100 ก็ได้เช่นกันครับ

SPF 50 อยู่ได้กี่ชั่วโมง ปกป้องแดดเมืองไทยได้ไหม
ครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไป ปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้

ใช้กันแดด SPF 50 พอไหม ? กับการปกป้องผิวจากแดดเมืองไทย

การใช้ครีมกันแดดปกป้องจากแดดเมืองไทย ควรใช้กันแดดค่า SPF 30 ขึ้นไป และ ค่า PA 3+ ขึ้นไปครับ

จึงสรุปได้ว่า ครีมกันแดดค่า SPF 50 เพียงพอกับการปกป้องผิวจากรังสี UVB สำหรับการเผชิญแสงแดดในประเทศไทย

หากใครมีผิวบอบบางแพ้ง่าย กังวลว่าจะเกิดการระคายเคืองสารกันแดด จากการใช้ครีมกันแดดค่า SPF 50 สามารถเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด SPF 30 หรือ SPF 40 ก็ได้เช่นกันครับ

ครีมกันแดดทาหน้า
Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream SPF 40 PA+++

DR. V SQUARE Sunscreen Cream

ครีมกันแดดทาหน้า Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream กันแดด Hybrid Sunscreen มาพร้อม SPF 40 PA+++ ช่วยปกป้องผิวได้ทุกคลื่นรังสี ไม่ว่าจะเป็น UVA, UVB, Blue light และ Infrared สารกันแดดมีความคงตัวสูงนำเข้าจากเยอรมัน ครอบคลุมการสะท้อน การกระเจิง และการดูดซับรังสีภายในเนื้อเดียว มีสาร Soothing Cooling จากเกาหลีใต้ ที่ช่วยป้องกันอาการแสบผิวหลังโดนแดด

โดยทางหมอ Dr. V Square ได้พัฒนากันแดดสูตรอ่อนโยนตัวนี้ ให้ใช้ได้กับทุกสภาพผิวครับ ผู้มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย กังวลว่าสารกันแดดที่มีค่า SPF สูงจะระคายเคืองผิว สามารถครีมกันแดดตัวนี้ได้ มีเนื้อสัมผัสเกลี่ยง่าย บางเบา แห้งซึมไว ทาแล้วออกแดดได้ทันที ไม่ต้องรอเวลานาน ทาซ้ำได้ทุก 4 ชั่วโมง


ใช้ครีมกันแดด SPF 50 อย่างไร ? ให้ปกป้องผิวได้ยาวนาน

แม้ว่าครีมกันแดด SPF 50 จะปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ยาวนานประมาณ 8 ชั่วโมง แต่ประสิทธิภาพการปกป้องไม่มีทางเป็น 100% แบบเดิมครับ เพราะหากผิวหน้าสัมผัสน้ำฝน เหงื่อ หรือมลภาวะต่าง ๆ ประสิทธิภาพการปกป้องจะดรอปลงในระหว่างวันอยู่แล้ว

หมอจึงขอแนะนำวิธีใช้ครีมกันแดด SPF 50 ให้ปกป้องผิวได้ยาวนานขึ้น ด้วยการหมั่นเติมกันแดดระหว่างวัน เพื่อปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวเลตอยู่เสมอ ดังนี้

  • กรณีอยู่บ้าน ไม่ได้โดนแสงแดดเลย ทากันแดดซ้ำทุก 5-6 ชั่วโมง
  • กรณีโดนแสงแดดบ้างเล็กน้อย เช่น ออกไปทำงาน ทานข้าวกลางวัน ทากันแดดซ้ำทุก 3-4 ชั่วโมง
  • กรณีโดนแสงแดดจัด ทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เล่นกีฬา ว่ายน้ำ ควรทากันแดดซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง

นอกจากนี้ยังต้องเลือกผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่มีค่า PA 3+ ขึ้นไป เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVA ในแสงแดด ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดปัญหาผิว เช่น ฝ้าแดด กระแดด จุดด่างดำ ริ้วรอยก่อนวัย ฯลฯ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ค่า PA ในครีมกันแดด คืออะไร PA+,PA++, PA+++, PA++++ แตกต่างกันอย่างไร ?

SPF 50 อยู่ได้กี่ชั่วโมง ใช้แล้วระคายเคืองผิวไหม
การใช้ครีมกันแดด SPF สูง มีโอกาสเสี่ยงเกิดการระคายเคือง

กันแดด SPF 50 เสี่ยงต่อการระคายเคืองไหม ?

ไม่ว่าจะเป็นครีมกันแดด SPF 15, SPF 30, SPF 40, SPF 50 หรือ SPF 100 มีโอกาสเกิดการระคายเคืองได้หมดครับ

เพราะยิ่งครีมกันแดดมีค่า SPF และ ค่า PA สูงมากเท่าไร ความเข้มข้นของสารกันแดดจะสูงขึ้นตามไปด้วย จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการระคายเคือง หรือแพ้ครีมกันแดดตามมาได้ครับ ยิ่งคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย จึงควรพิจารณาการเลือกซื้อครีมกันแดด SPF 50 ให้ดีก่อนเสมอ

หมอขอแนะนำแนวทางการซื้อกันแดด SPF เพื่อลดโอกาสการเกิดอาการระคายเคือง ดังนี้

  • ซื้อครีมกันแดดจากร้านจำหน่าย Official หรือ ร้านที่น่าเชื่อถือ
  • เช็กวันหมดอายุครีมกันแดดก่อนซื้อ หมอได้เขียนไว้ในบทความ วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดด เข้าไปอ่านกันได้ครับ
  • ซื้อกันแดด SPF 50 ให้เหมาะกับสภาพผิว ดังนี้
    • ผิวมัน : เน้นกันแดดเนื้อเจลบางเบา เกลี่ยง่าย
    • ผิวแห้ง : เน้นกันแดดเนื้อครีม ที่เพิ่มความชุ่มชื้น
    • ผิวผสม : ใช้กันแดดได้ทั้งเนื้อเจล และ เนื้อครีม
    • ผิวบอบบางแพ้ง่าย : เน้นกันแดดสูตรอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดสิว

สรุปเรื่อง SPF 50 อยู่ได้กี่ชั่วโมง

ครีมกันแดด SPF 50 อยู่ได้กี่โมง ? โดยเฉลี่ยแล้วจะปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้นานประมาณ 8 ชั่วโมงครับ แต่ทั้งนี้เราควรทาครีมกันแดดซ้ำระหว่างวันเสมอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปกป้องผิว ที่อาจจะดรอปไปในระหว่างวัน จากการทำกิจกรรม และเผชิญมลภาวะต่าง ๆ

นอกจากนี้ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ ค่า PA ร่วมด้วย เพื่อให้ผิวได้รับการปกป้อง ครอบคลุมทั้งรังสี UVA และ UVB ครับ