ผิวใส คืออะไร ?
ผิวใส คือ ผิวที่ดูเรียบเนียน สุขภาพดี เปล่งประกายจากภายใน ไม่จำเป็นต้องขาวแต่ต้องมีความสมดุลของน้ำและน้ำมันในผิวอย่างเหมาะสม แล้วจะดูยังไงว่าผิวใส ?
หลายคนมักเข้าใจผิดว่าผิวใสต้องเป็นผิวขาวเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วผิวใสแตกต่างกับผิวขาว และไม่ว่าจะมีผิวโทนไหนก็สามารถมีผิวใสได้ มาเช็กสภาพผิว และรู้วิธีฟื้นฟูผิวให้ขาวกระจ่างใสไปกับ Dr. V Square กันครับ
คลิกอ่านหัวข้อ ผิวใส คืออะไร
ผิวใส ดูยังไง มีลักษณะแบบไหน ?
เริ่มต้นด้วยการเช็กคุณสมบัติผิวใสกันก่อนครับ แบบไหนถึงเรียกว่าผิวใส หน้าใส สามารถเช็กสภาพผิวของตัวเองในเบื้องต้นได้ โดยผิวใส จะมีลักษณะดังนี้
- สีผิวสม่ำเสมอ ไม่มีจุดด่างดำหรือรอยแดงจากสิวมากจนเกินไป
- เนียนนุ่ม ไม่แห้งลอก ผิวมีความชุ่มชื้นเพียงพอ ไม่ลอกเป็นขุย
- มีความเงาแบบสุขภาพดี หรือที่เรียกว่าผิวกระจก Glass Skin มีออร่า ไม่หมองคล้ำ
- ไม่มีสิวหรือรูขุมขนกว้างมากเกินไป เมื่อมองด้วยตาเปล่า ผิวแลดูละเอียดเรียบเนียน
ผิวใส จำเป็นต้องขาวเสมอไปไหม ?
ไม่จำเป็นต้องขาวก็สามารถมีผิวใสได้ ผิวที่ดูสุขภาพดีมีได้ทุกสีผิว ไม่ว่าจะมีผิวโทนไหนก็สามารถดูสดใส เปล่งประกายได้ถ้าได้รับดูแลผิวอย่างถูกต้อง
โดยการมีผิวใสจะขึ้นอยู่กับ สุขภาพผิว ความชุ่มชื้น และความเรียบเนียนของผิว มากกว่าสีผิวที่ขาวหรือคล้ำ
ผิวขาว กับ ผิวใส แตกต่างกันอย่างไร ?
- ผิวขาว คือ โทนสีของผิวที่อ่อนลง เกิดจากพันธุกรรมหรือปริมาณเม็ดสีเมลานินของแต่ละคน
- ผิวใส คือ ผิวที่มีสุขภาพดี กระจ่างใส ไม่มีความหมองคล้ำ และไม่จำเป็นต้องขาว
การที่มีผิวขาว ไม่ได้แปลว่าจะมีผิวใสเสมอไป เพราะหากผิวขาดความชุ่มชื้น มีรอยสิว หรือหน้าหมองคล้ำเกิดจากแสงแดด ทำให้หน้าโทรม ดูไม่สดใสได้ครับ
วิธีฟื้นฟูผิวให้ขาวกระจ่างใส ต้องทำอย่างไร ?
หากต้องการฟื้นฟูให้ผิวกระจ่างใส ผิวขาวอมชมพู หมอแบ่งออกการดูแลออกเป็น 3 หมวดหมู่ ดังนี้
1. ดูแลผิวด้วยสกินแคร์ที่เหมาะสม
- ล้างหน้าให้สะอาด วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว
- ดูแลผิวต่อเนื่องด้วย Skincare Routine ที่เหมาะกับสภาพผิว และปัญหาผิว
- ใช้เซรั่มวิตามินซี หรือ Niacinamide เพื่อช่วยลดจุดด่างดำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
- ปรับสภาพผิวหน้าด้วย AHA & BHA ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดลอก
- ใช้เรตินอล ลดเลือนริ้วรอย ผิวเต่งตึงกระชับ ลดรอยดำจากสิว ผลัดเซลล์ผิวใส หน้าใส
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้น เพิ่ม Skin Barrier ให้ผิวแข็งแรง
- ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดที่ทำร้ายผิว
เมราลิส เซรั่ม
Dr. V Square Melaris Serum
เซรั่มเนื้อเข้มข้น สูตรผิวกระจ่างใส ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ เมลาริส เซรั่ม (Melaris Serum) สารสกัดจากส้ม Mandarin จากญี่ปุ่น ที่ช่วยให้ผิวสุขภาพดี ชุ่มชื้น อิ่มฟู ผิวเรียบเนียน ละเอียด กระชับ แข็งแรง
พร้อมด้วยนวัตกรรมใหม่ Niosomal อนุภาคระดับนาโน ที่นำส่งสารสกัดสู่ผิวได้ล้ำลึกกว่า 332% เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวแพ้ง่าย ไม่มีสาร Hydroquinone และ Steroid ลดโอกาสเกิดการแพ้ ดูแลผิวให้ขาวกระจ่างใส ฝ้า กระ จางลงภายใน 7-14 วัน เห็นผลตั้งแต่ขวดแรก
ยูวี เอ-บี-ซี ซันสกรีน ครีม
Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream
กันแดด Triple Protection ยูวี เอ-บี-ซี ซันสกรีน ครีม (UV ABC Sunscreen Cream) จากประเทศเยอรมนี ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ทุกคลื่นรังสีอัลตราไวโอเลต UVB-UVA2-UVA1-Visible Light Infrared และ Blue Light ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถึง 3 กระบวนการ สะท้อน Reflection/กระเจิง Scattering/ดูดซับ Absorption
พร้อมสารสกัด Soothing Cooling นำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ ป้องกันการแสบร้อนผิว ผิวแดงหลังโดนแดด ลดการทำลายชั้นผิวจากความร้อน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ผิวแพ้ง่าย เด็ก และสตรีมีครรภ์ใช้ได้ ทาแล้วสามารถออกแดดได้ทันที ทาทับระหว่างวันได้เมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง
2. หัตถการเสริมความงามและเลเซอร์ทรีตเมนต์
- ฉีด Skin Bootster ปรับปรุงคุณภาพผิวขาว กระจ่างใส เพิ่มความชุ่มชื้น และลดริ้วรอยเล็ก ๆ
- ฉีดเมโสหน้าใส บำรุงผิวเร่งด่วน มีหลายสูตร เช่น ลดสิว-แก้ผื่น เน้นผิวขาว อมชมพู หน้าใส
- ฉีดวิตามินผิวใส หรือดริปวิตามิน ช่วยลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน ฟื้นฟูผิวยืดหยุ่น แข็งแรง
- ฉีด Rejuran บูสต์ผิวจากภายใน ปรับสีผิวเพิ่มความกระจ่างใส ฉ่ำวาว เรียบเนียน
- ฉีด Collagen Biostimulator สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวแข็งแรง ขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ
- เลเซอร์ผิวใส เช่น Q-Switch Laser หรือ IPL ช่วยลดรอยดำและกระตุ้นคอลลาเจน
- ทรีตเมนต์หน้าใส กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวเนียนนุ่มกระจ่างใส
3. ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อซ่อมแซมเซลล์ผิวจากภายใน
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ผิวดูสดใสขึ้น
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ เช่น อาหารที่มีน้ำตาลสูง ของทอด อาหารแปรรูป การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทำให้เกิดการอักเสบและเร่งการเสื่อมของเซลล์ผิว
- หลีกเลี่ยงความเครียด เพราะจะไปกระตุ้นฮอร์โมนคอร์ติซอล ทำให้เกิดสิว
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และทาครีมกันแดดเป็นประจำ เลือกที่มีค่า SPF สูง ค่า PA++++
ควรกินอะไรที่ทำให้ผิวใสขึ้น ?
การมีผิวใสสุขภาพดี ไม่ใช่แค่การดูแลภายนอก แต่ยังต้องบำรุงจากภายในด้วย อาหารที่รับประทานมีผลโดยตรงต่อสุขภาพผิว โดยสารอาหารบางชนิดช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ลดการอักเสบ และเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวใสขึ้น เช่น
- ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง กีวี่ สตรอว์เบอร์รี และมะเขือเทศ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดจุดด่างดำ
- ไขมันดี เช่น อะโวคาโด ถั่วอัลมอนด์ วอลนัท และปลาแซลมอน มีโอเมก้า 3 ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดการอักเสบของผิว
- อาหารที่มีคอลลาเจน เช่น น้ำซุปกระดูก หนังปลาแซลมอน และเจลาติน ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
- ชาเขียว มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดการอักเสบของผิว ปกป้องผิวจากแสงแดด และชะลอริ้วรอย
- ดาร์กช็อกโกแลต (โกโก้เข้มข้น 70% ขึ้นไป) อุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยป้องกันผิวจากรังสียูวีและเพิ่มความชุ่มชื้น
- น้ำเปล่า ควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำ กระจ่างใส และขับสารพิษออกจากร่างกาย
- โยเกิร์ตและโปรไบโอติกส์ ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ลดปัญหาสิวจากภายใน และทำให้ผิวสุขภาพดีขึ้น
- อาหารที่มีซิงก์สูง เช่น หอยนางรม เมล็ดฟักทอง และถั่วลิสง ช่วยลดการเกิดสิวและช่วยให้แผลสมานเร็วขึ้น
สรุป ผิวใส คือ ผิวที่ทุกคนสร้างได้
ทุกคนสามารถมีผิวใสได้ เพราะผิวใสไม่จำเป็นต้องผิวขาว แต่เป็นผิวที่สุขภาพดีในทุกมิติ จึงจำเป็นที่ผิวจะต้องได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการเลือกใช้ Skincare Routine เช่น ครีมบำรุงผิว มอยส์เจอร์ไรเซอร์ เซรั่ม ที่เหมาะสม เพราะหัวใจสำคัญของผิวใส คือ ความชุ่มชื้น
นอกจากนี้ควรหมั่นทาครีมกันแดดเป็นประจำ เลือกใช้ครีมกันแดดที่ปกป้องผิวจากรังสียูวีทั้ง UVB UVA2 UVA1 ได้อย่างครอบคลุม รวมถึงรับประทานอาหารที่ดีต่อผิว ดูแลทั้งจากภายในและภายนอก เพื่อผิวดี ผิวใสยั่งยืนครับ
