กันแดดตัวทาหน้าได้ไหม

กันแดดตัวทาหน้าได้ไหม

ใช้ครีมกันแดดตัวทาหน้าได้ไหม ? เอาครีมกันแดดทาหน้าทาตัวได้ไหม ?

คำถามเหล่านี้หลายคนสงสัยครับ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นครีมกันแดดย่อมทำหน้าที่ปกป้องผิวจากรังสี UV เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงคิดว่ากันแดดผิวกายใช้กับหน้าได้

ในบทความนี้หมอสรุปให้ครับ ว่าครีมกันแดดทาตัวทาหน้าได้ไหม ? หากใช้ด้วยกันมีผลต่อประสิทธิภาพการปกป้องผิวหรือไม่ ? เสี่ยงเกิดอาการระคายเคืองผิวไหม ? ติดตามอ่านกันได้ครับ

Key Takeaway

กันแดดตัวทาหน้าได้ไหม ?

  • ไม่ควรใช้ครีมกันแดดตัวทาหน้า เพราะเสี่ยงเกิดการระคายเคืองผิว
  • ครีมกันแดดทาตัวมีส่วนผสมและสารกันแดด ที่มีความเข้มข้นสูงกว่าครีมกันแดดทาหน้า
  • ครีมกันแดดทาหน้า สามารถใช้ทาตัวได้แต่ไม่นิยม เพราะต้องใช้ปริมาณเยอะ และมีเนื้อสัมผัสที่บางเบาเกินไปสำหรับการทาปกป้องผิวกาย
  • การปกป้องผิวหน้าและผิวกาย ควรใช้ครีมกันแดดค่า SPF30 ขึ้นไป และมีค่า PA3+ ขึ้นไป

คลิกอ่านหัวข้อ กันแดดตัวทาหน้าได้ไหม


เอาครีมกันแดดทาตัวทาหน้าได้ไหม ?

ครีมกันแดดทาตัวเอามาทาหน้าได้ไหม ? คำตอบคือ ไม่ได้ครับ

เพราะครีมกันแดดทาตัวกับครีมกันแดดทาหน้า มีส่วนผสมสารกันแดด ความเข้มข้นของเนื้อครีมแตกต่างกัน การนำกันแดดผิวกายใช้กับหน้าเสี่ยงเกิดการระคายเคือง และเพิ่มโอกาสเกิดการอุดตันครับ


ใช้กันแดดทาหน้าทาตัวได้ไหม ?

กันแดดหน้าทาตัวได้ไหม ? คำตอบคือ ได้ครับ แต่ไม่นิยมนำครีมกันแดดหน้ามาทาตัว

โดยทั่วไปแล้ว ครีมกันแดดทาหน้ามักมีส่วนผสมของสารกันแดด รวมถึงเนื้อสัมผัสที่บางเบากว่า และยังมีส่วนผสมที่ช่วยเรื่องความสวยงาม เช่น ควบคุมความมัน เพิ่มความติดทน ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ฯลฯ

หากเอาครีมกันแดดหน้าทาตัว แทบไม่ได้ช่วยเรื่องการปกป้องผิวกายเท่าที่ควร และสิ้นเปลืองครับ เพราะการทาครีมกันแดดตัวเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV (รังสีอัลตราไวโอเลต) ต้องใช้ปริมาณกันแดดเยอะกว่าผิวหน้า

จึงมีการแยกประเภทครีมกันแดดสำหรับทาหน้า และ ทาตัว เอาไว้ชัดเจน เพราะจุดประสงค์การปกป้องผิวที่ต่างกัน

ปริมาณกันแดดหน้า และ กันแดดตัว
ปริมาณการทาครีมกันแดดหน้าและกันแดดตัว

ทำไมกันแดดทาตัวทาหน้าไม่ได้ ?

แม้ว่าการทาครีมกันแดดหน้าและกันแดดตัว มีจุดประสงค์เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ในแสงแดดเหมือนกัน แต่ครีมกันแดดทาตัวไม่เหมาะกับการใช้ทาที่หน้าครับ สาเหตุที่กันแดดทาตัวทาหน้าไม่ได้ มีดังนี้

  • ส่วนผสมกันแดดตัวไม่เหมาะกับผิวหน้า ครีมกันแดดทาตัวส่วนใหญ่ มีสารกันแดดบางชนิดที่มีความเข้มข้นมากกว่ากันแดดทาหน้าครับ หากทาหน้าด้วยครีมกันแดดตัว อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิว รูขุมขนอุดตัน จนเกิดปัญหาสิวอักเสบหรือสิวอุดตันได้ง่าย
  • ครีมกันแดดตัวมีเนื้อครีมหนักเกินไป โดยปกติแล้วครีมกันแดดทาตัวจะมีเนื้อสัมผัสที่เหนียวกว่า และหนักกว่าครีมกันแดดทาหน้าครับ เนื่องจากผิวมีบริเวณกว้างกว่า จึงควรเลี่ยงการนำกันแดดทาตัวทาหน้า เพราะเสี่ยงเกิดผิวอุดตันได้ครับโดยเฉพาะผู้ที่มีผิวมันเป็นทุนเดิม
  • กันแดดทาตัวไม่เหมาะกับทุกสภาพผิว การใช้ครีมกันแดดทาตัวทาหน้านอกจากเสี่ยงเกิดการระคายเคืองแล้ว ยังเหนียวเหนอะหนะได้ง่ายในกลุ่มผู้มีผิวมัน หรืออาจสูญเสียความชุ่มชื้นสำหรับคนผิวแห้ง เพราะสารช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ
กันแดดทาตัวทาหน้าไม่ได้
ครีมกันแดดทาตัว และ ครีมกันแดดทาหน้า ไม่ควรใช้ร่วมกัน

ครีมกันแดดทาหน้า VS กันแดดทาตัว ต่างกันอย่างไร ?

กันแดดทาหน้ากับทาตัวต่างกันไหม ? ต่างกันครับ หมอสรุปความแตกต่างแต่ละด้านไว้ดังนี้

1. เนื้อสัมผัสของครีมกันแดด

ครีมกันแดดทาหน้า : มีความบางเบา หลากหลายเนื้อสัมผัส เช่น เนื้อครีม เนื้อเซรั่ม เนื้อน้ำนม เนื้อเจล เนื้อฟลูอิด ทำให้เกลี่ยง่าย ซึมเข้าผิวไวกว่า

ครีมกันแดดทาตัว : มีเนื้อสัมผัสหนัก เหนียวเหนอะหนะกว่า เนื้อสัมผัสส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อครีม หรือเนื้อเซรั่มเข้มข้น ทำให้เกลี่ยแล้วมีความหนืด

2. ส่วนผสมในครีมกันแดด

ครีมกันแดดทาหน้า : ส่วนผสมส่วนใหญ่มีความอ่อนโยน บางสูตรปราศจากสารก่อระคายเคือง เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ สารกันเสียที่เป็นอันตราย ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้

ครีมกันแดดทาตัว : ส่วนผสมมีความเข้มข้นสูงกว่า อาจมีการแต่งกลิ่นด้วยน้ำหอมปริมาณสูง ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายเป็นทุนเดิมเสี่ยงเกิดการระคายเคืองผิว

3. ความเหมาะสมของสภาพผิว

ครีมกันแดดทาหน้า : มีสูตรเฉพาะสำหรับคนผิวมัน ผิวแห้ง และผิวแพ้ง่ายเป็นสิว สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิว และปัญหาผิวตามช่วงเวลาได้

ครีมกันแดดทาตัว : ไม่ได้ออกแบบมาให้เหมาะกับผิวทุกประเภท ผู้มีปัญหาผิวเช่น เป็นสิว เป็นฝ้า ใช้แล้วอาจเกิดการระคายเคือง เสี่ยงเกิดปัญหาผิวในระยะยาว

4. การกันน้ำ กันเหงื่อ

ครีมกันแดดทาหน้า : มีทั้งสูตรกันน้ำ กันเหงื่อ (Water Resistant) และ ไม่กันน้ำ กันเหงื่อ ผู้มีผิวแพ้ง่ายสามารถเลือกใช้ได้ เพื่อลดการอุดตันผิว

ครีมกันแดดทาตัว : มักออกแบบมาเป็นสูตรกันน้ำ กันเหงื่อ เพื่อการปกป้องผิวกายที่ยาวนานในช่วงระหว่างวัน เหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง

กันแดดหน้า กันแดดตัว เนื้อสัมผัสต่างกัน
ครีมกันแดดทาหน้า และ ครีมกันแดดทาตัว มีเนื้อสัมผัสต่างกัน

ใช้ครีมกันแดดทาหน้าทาตัว หรือกันแดดทาตัวทาหน้า เสี่ยงเกิดปัญหาใดบ้าง ?

ใช้ครีมกันแดดทาหน้าทาตัว เสี่ยงเกิดปัญหา ดังนี้

  • ครีมกันแดดไม่เพียงพอสำหรับการทาผิวกาย
  • ต้องใช้ครีมกันแดดทาหน้าปริมาณมากเกินความจำเป็น กว่าจะครอบคลุมทั้งตัว
  • ประสิทธิภาพการกันน้ำ กันเหงื่อน้อยลง ปกป้องผิวได้ไม่ดีพอ
  • ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น เพราะผิวกายต้องการความชุ่มชื้นกว่าผิวหน้า

ใช้ครีมกันแดดทาตัวทาหน้า เสี่ยงเกิดปัญหา ดังนี้

ใช้กันแดดทาตัวทาหน้าปัญหาผิว
การใช้กันแดดทาตัวทาหน้า เสี่ยงเกิดอาการผิวระคายเคือง

เลือกครีมกันแดดผิวหน้า และ ผิวกาย อย่างไรให้เหมาะสม ?

แนวทางการเลือกกันแดดผิวหน้า มีดังนี้

  • มีค่า SPF 30+ ขึ้นไป เช่น SPF 30, SPF 40, SPF 50 และ SPF 50+
  • มีค่า PA 3+ ขึ้นไป คือ PA+++ และ PA++++
  • ปกป้องผิวครอบคลุมทุกคลื่นรังสี เช่น UVA, UVB, UVC, แสงสีฟ้า, อินฟราเรด
  • มีประสิทธิภาพกันน้ำ กันเหงื่อได้ดี
  • เน้นเป็นครีมกันแดดประเภท Physical หรือ Hybrid Sunscreen
  • เลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิว เช่น
    • ผิวมัน – ใช้กันแดดเนื้อน้ำนม เนื้อเซรั่ม เนื้อฟลูอิด หรือเนื้อครีมที่มีความบางเบา เป็นสูตรควบคุมความมัน
    • ผิวแห้ง – ใช้กันแดดเนื้อครีมที่มีส่วนผสมเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น กลีเซอรีน (Glycerin) ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid)
    • ผิวผสม – ใช้กันแดดได้ทุกเนื้อสัมผัส แต่ควรเน้นเนื้อกันแดดที่บางเบา เกลี่ยง่าย แห้งซึมเข้าผิวไว
    • ผิวบอบบางแพ้ง่าย – ใช้กันแดดสูตรเฉพาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย หรือที่ระบุว่าใช้ได้ทุกสภาพผิว กันแดดควรปราศจากสารก่อระคายเคือง หรือระบุว่าเป็น Non-Comedogenic ไม่อุดตันรูขุมขน

ยูวี เอ-บี-ซี ซันสกรีน ครีม
Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream

กันแดดผิวหน้า dr.vsq

ครีมกันแดดทาหน้า Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream SPF40 PA+++ ให้การปกป้องผิวที่ครอบคลุมทั้งรังสี UVA1, UVA2, UVB, UVC, Blue light และ Infrared ป้องกันรังสี UV ได้ครบ 3 กระบวนการในเนื้อครีมเดียว ทั้งการสะท้อน การกระเจิง และการดูดซับ สารกันแดดนำเข้าจากประเทศเยอรมนี มีความคงตัวสูง ปกป้องผิวได้อย่างมั่นใจในทุกกิจกรรม

โดยกันแดดทาหน้า Dr. V Square สูตรนี้ ใช้ได้กับทุกสภาพผิวครับ แม้ว่าผิวบอบบางแพ้ง่ายก็ตาม นอกจากนี้ ยังมีสารสกัด Soothing Cooling จากประเทศเกาหลีใต้ ที่ช่วยลดการแสบผิว ผิวไหม้แดด ในขณะที่เผชิญแสงแดดจัดระหว่างวัน พร้อมกันน้ำ กันเหงื่อ ทาซ้ำได้ทุก 4 ชั่วโมงครับ

แนวทางการเลือกกันแดดผิวกาย มีดังนี้

  • มีค่า SPF 30+ ขึ้นไป เช่น SPF 30, SPF 40, SPF 50 และ SPF 50+
  • มีค่า PA 3+ ขึ้นไป คือ PA+++ และ PA++++
  • ใช้กันแดดผิวกายสูตรปกติ (Daily Sunscreen) ในชีวิตประจำวันทั่วไป
  • ใช้กันแดดผิวกายสูตรกันน้ำ กันเหงื่อ (Water-Resistant) เมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง
  • เน้นใช้เป็นครีมกันแดดสำหรับทาเท่านั้น เลี่ยงการใช้สเปรย์กันแดด

นอกจากนี้ ควรหมั่นทากันแดดซ้ำระหว่างวัน และทาครีมกันแดดให้ถูกวิธีครับ หมอมีเขียนไว้ในบทความ วิธีทากันแดดที่ถูกต้อง สำหรับผิวหน้า – ผิวกาย ให้ผิวสวยห่างไกลจากแสงแดด อ่านเพิ่มเติมได้ครับ


มีครีมกันแดดที่ทาได้ทั้งหน้าและตัวหรือไม่ ?

ปัจจุบันมีครีมกันแดดที่ทาได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายครับ

การใช้ครีมกันแดด All in one สำหรับทาหน้าและทาตัว จำเป็นต้องพิจารณาส่วนผสม เนื้อสัมผัส และสูตรกันแดดให้เหมาะกับผิวครับ แต่ส่วนใหญ่จะไม่นิยมใช้ครีมกันแดดหน้าและตัวร่วมกัน

เพราะอย่างที่หมอกล่าวไปแล้ว ว่าผิวหน้าและผิวกายมีลักษณะผิวต่างกัน จึงควรใช้ครีมกันแดดทาหน้า และ ครีมกันแดดทาตัวแยกกัน เพื่อให้ปกป้องผิวเฉพาะส่วนจากรังสี UV อย่างตรงจุด เหมาะกับปัญหาผิวและสภาพผิวครับ


สรุปเรื่องครีมกันแดดทาตัวทาหน้าได้ไหม ใช้ร่วมกันได้ไหม

สำหรับคำถามครีมกันแดดทาตัวทาหน้าได้ไหม ? คำตอบคือ ไม่ได้ครับ เพราะมีโอกาสเกิดการระคายเคืองผิว

ส่วนครีมกันแดดทาหน้าทาตัวได้ไหมนั้น ? คำตอบคือ ทำได้ครับ แต่ไม่นิยม เพราะต้องใช้กันแดดปริมาณมากในการทาทั่วร่างกาย เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV

เพื่อการปกป้องผิวมีประสิทธิภาพ และป้องกันการเกิดปัญหาผิวในระยะยาว การใช้ครีมกันแดดผิวหน้า ผิวกายแยกกัน จะช่วยป้องกันรังสี UV จากแสงแดดได้เหมาะสมกว่า ไม่เสี่ยงเกิดอาการระคายเคืองผิวหรือการแพ้ครีมกันแดดตามมาครับ

อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่: 1 เมษายน 2568

Share: