7 ผลเสียของการ ไม่ทาครีมกันแดด ที่จะเกิดขึ้น ส่งผลทำร้ายผิวมากกว่าที่คิด

ผลเสียของการไม่ทาครีมกันแดด ส่งผลทำร้ายผิวมากกว่าที่คิด

ไม่ทากันแดด

การไม่ทากันแดดก่อนออกจากบ้าน เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมาครับ เพราะรังสี UVA และ UVB ในแสงแดด ทำร้ายผิวได้มากกว่าที่คิด

การทาครีมกันแดดเป็นประจำ สำคัญอย่างไร ? ถ้าไม่ทาครีมกันแดด 1 วัน หรือนานติดต่อกัน ส่งผลเสียต่อผิวอย่างไรบ้าง ? อยู่บ้านไม่ทากันแดดได้ไหม ? ในบทความนี้หมอสรุปข้อมูลมาให้แล้วครับ

คลิกอ่านหัวข้อ ไม่ทากันแดด


ทำไมการใช้ครีมกันแดด จึงมีความสำคัญ ?

การใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ เป็นวิธีการปกป้องผิวที่ดีและง่ายที่สุดครับ ช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลต หรือ รังสี UV ในแสงแดด

โดยเฉพาะแดดประเทศไทย ที่นับวันยิ่งทวีคูณความรุนแรงเพิ่มขึ้น การใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว และป้องกันการเกิดปัญหาผิวจึงสำคัญและจำเป็น

การใช้ครีมกันแดดปกป้องผิวหน้า และ ผิวกาย ช่วยลดปัญหาผิวต่าง ๆ ดังนี้

  • ฝ้าแดด กระแดด และจุดด่างดำ
  • ผิวไหม้แดด (Sunburn)
  • ริ้วรอยก่อนวัยบริเวณใบหน้า
  • มะเร็งผิวหนัง (Skin Cancer)
  • สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวหมองคล้ำ
  • การอักเสบของผิว
  • ผิวไวต่อแสง
  • ผิวโทรม

หมอได้สรุปข้อดีและประโยชน์การใช้กันแดดไว้ในบทความ 10 ข้อดี ประโยชน์ครีมกันแดด มีอะไรบ้าง สำคัญต่อผิวหน้า-ผิวกายอย่างไร ?

ไม่ทากันแดดส่งผลให้เกิดปัญหาผิว
การไม่ทากันแดดเป็นปัจจัยของการเกิดปัญหาผิว

ผลเสียของการไม่ทากันแดด มีอะไรบ้าง ?

ผลเสียของการไม่ทากันแดด จะส่งผลกระทบต่อผิวเราโดยตรงครับ หมอสรุปข้อเสียที่จะเกิดขึ้นถ้าไม่ทากันแดด ดังนี้

1. ผิวไหม้แดด รู้สึกแสบผิว

หากไม่ทากันแดดจะได้รับผลกระทบจากรังสี UVB ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดผิวไหม้แดด

ผู้มีผิวอ่อนแอ หรือ ผิวบอบบางแพ้ง่าย หากสัมผัสแสงแดดติดต่อกันนานเกินกว่า 30 นาที โดยไม่ทากันแดด ผิวจะเริ่มรู้สึกแสบร้อน และหลังจากนั้น 1-3 วัน อาจเริ่มรู้สึกแสบ ระคายเคืองผิว ผิวเริ่มแดงครับ

ในบางรายที่มีอาการถูกแดดเผารุนแรง ผิวจะมีตุ่มน้ำใส มีอาการคัน รู้สึกปวดแสบปวดร้อนร่วมด้วย ซึ่งจะใช้ระยะเวลาฟื้นฟูผิวนานเป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือนครับ

ไม่ทาครีมกันแดดทำให้ผิวไหม้แดด
ผิวไหม้แดดเพราะไม่ทาครีมกันแดด

2. เกิดริ้วรอยก่อนวัย เร็วกว่าปกติ

รังสี UVA ในแสงแดด ศัตรูตัวฉกาจที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย โดยเฉพาะผิวบริเวณใบหน้า ถ้าไม่ทากันแดดเป็นประจำ ริ้วรอยเหล่านี้จะถามหาไวกว่าปกติครับ

เพราะรังสี UV ที่สัมผัสกับผิว จะทำลายอีลาสติน (Elastin) ซึ่งเป็นโปรตีนที่ร่างกายผลิตขึ้น เพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้กับเนื้อเยื่อ นอกจากนี้ยังทำลายคอลลาเจน (Collagen) ในชั้นผิวให้เสื่อมสภาพลง

เมื่อตัวการสำคัญอย่างอีลาสตินและคอลลาเจน ที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหนังถูกทำลายลงจากการไม่ทากันแดด จึงส่งผลให้เกิดริ้วรอยบริเวณใบหน้า และผิวกายตามมาครับ

ถ้าไม่ทากันแดดจะทำให้เกิดริ้วรอย
ริ้วรอยขึ้นบริเวณใบหน้าเมื่อไม่ทากันแดดติดต่อกันเป็นเวลานาน

3. ผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ

ผิวที่ไม่ได้ทากันแดด มีโอกาสเกิดผิวหมองคล้ำและมีสีผิวไม่สม่ำเสมอ ได้ง่ายกว่าผิวที่ทาครีมกันแดดเป็นประจำ

โดยรังสี UVA เป็นตัวการหลักที่ทำให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำ เพราะผิวที่สัมผัสแสงแดดมากเกินไป จะมีการผลิตเม็ดสีเมลานิน (Melanin) เพิ่มขึ้น เพื่อปกป้องผิวของเราครับ ส่งผลให้ผิวมีจุดสีน้ำตาล หน้าคล้ำขึ้น สีผิวไม่สม่ำเสมอ

ตอนมีคนไข้มาปรึกษาหมอเกี่ยวกับผิวหมองคล้ำ จากการซักประวัติพบว่า คนไข้ส่วนใหญ่ไม่ได้ทากันแดดเป็นประจำทุกวัน และไม่ได้เติมกันแดดซ้ำระหว่างวันครับ จึงส่งผลให้รังสี UV ทำร้ายผิว จนเกิดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำตามมา

คลิกอ่านเพิ่มเติม : วิธีทากันแดดที่ถูกต้อง สำหรับผิวหน้า – ผิวกาย ให้ผิวสวยห่างไกลจากแสงแดด

ไม่ทากันแดดผลเสียทำให้ผิวหมองคล้ำ
สีผิวหมอคล้ำเมื่อไม่ได้ทากันแดด

4. ผิวหน้าโทรม

เมื่อผิวหน้าหมองคล้ำจากการตากแดด ย่อมส่งผลทำให้หน้าโทรมตามมาด้วยครับ

แม้ว่าปัญหาหน้าโทรมจะเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย แต่การถูกรังสี UV ทำร้ายเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักครับ

โดยเฉพาะรังสี UVA ที่มีคลื่นรังสียาวสุด ส่งผลให้ทำลายชั้นผิวหนังกำพร้าและผิวหนังแท้ได้ และถึงเราจะอยู่ภายในที่ร่ม หากไม่ทากันแดดทุกวัน หรือทากันแดดไม่เพียงพอ รังสี UVA จะทะลุผ่านวัตถุมาที่ผิวหนังเราได้เช่นกัน

ถ้าไม่ทาครีมกันแดดจะหน้าโทรม
หน้าโทรม ไม่สดใส เพราะถูกรังสี UV ทำร้าย

5. เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ

การเกิดฝ้าแดด กระแดด และจุดด่างดำ มีสาเหตุหลักมาจากรังสี UV

เมื่อเผชิญแสงแดดจัดจะเกิดกระตุ้นเซลล์เมลาโนไซต์ (Melanocyte) ให้ผลิตเม็ดสีเมลานินออกมาเพิ่มขึ้นเพื่อปกป้องผิวของเรา จนทำให้เกิดฝ้าแดด กระแดด และจุดด่างดำตามมา แม้ว่าจะมีการเลเซอร์เพื่อรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ แต่หากไม่ทากันแดดสม่ำเสมอ ปัญหาเหล่านี้พร้อมวกกลับมาได้ตลอดเวลาครับ

ไม่ทากันแดด 1 วัน เสี่ยงเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ
รังสี UV ปัจจัยของการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ

6. ผิวอ่อนแอ ผิวไม่แข็งแรง

ผิวที่เผชิญกับแสงแดดติดต่อกันเป็นเวลานานโดยไม่ทากันแดด สภาพผิวจะอ่อนแอง่ายกว่าผิวปกติ เพราะเกิดจากการถูกรังสี UV ทำร้ายชั้นผิว จนผิวไม่แข็งแรง นำไปสู่สาเหตุหลักของการเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ผิวไหม้แดด การเกิดสิว อาการระคายเคืองผิว ผิวแห้งกร้าน ผิวหมองคล้ำ ฯลฯ

ข้อเสียของการไม่ทากันแดดทำให้ผิวอ่อนแอ
ไม่ทากันแดดเป็นประจำ มีแนวโน้มผิวเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ

7. เสี่ยงเกิดมะเร็งผิวหนัง

รังสี UV เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง

เพราะผิวที่สัมผัสกับแสงแดดจัด โดยไม่ทากันแดดติดต่อกันเป็นเวลานานหลายปี จะถูกรังสี UV ในแสงแดดทำลาย DNA (Genotoxic) ครับ ส่งผลให้เกิดมะเร็งผิวหนังตามมาได้

จากข้อมูล Skin Cancer Foundation ระบุว่า การใช้ครีมกันแดด SPF 15 ช่วยลดการเกิดมะเร็งผิวหนังชนิด Squamous Cell Carcinoma (SCC) ได้ถึง 40%

ผลของการไม่ทากันแดด เสี่ยงเกิดมะเร็งผิวหนัง
แสงแดดเป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งผิวหนัง

อยู่บ้านไม่ทากันแดดได้ไหม ?

แม้ว่าจะอยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหน ก็ควรทากันแดดเป็นประจำทุกวันครับ เนื่องจากรังสี UVA สามารถทะลุผ่านวัตถุ เช่น กำแพงกระจก เข้ามาทำร้ายชั้นผิวหนังกำพร้าและชั้นผิวหนังแท้ได้

โดยการเลือกครีมกันแดดสำหรับวันเบา ๆ ที่ไม่ได้ออกไปทำกิจกรรมข้างนอก ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ ค่า PA เหมาะสม เช่น SPF 30 PA+++ หรือ SPF 40 PA +++ เพื่อลดโอกาสการระคายเคืองผิว จากการใช้สารกันแดดที่มีความเข้มข้นสูงเกินความจำเป็นครับ

ครีมกันแดดหน้า เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย
Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream SPF 40 PA+++

DR. V SQUARE Sunscreen Cream

ครีมกันแดดหน้า Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream SPF 40 PA+++ เหมาะสำหรับทากันแดดในวันที่อยู่บ้าน หรือออกไปทำงานครับ มาพร้อมสารกันแดดคงตัวสูง มาตรฐานเยอรมัน ปกป้องผิวได้ทุกคลื่นรังสี เช่น UVA, UVB, แสงสีฟ้า และ อินฟราเรด ป้องกันการสะท้อน การกระเจิง และการดูดซับได้ภายในเนื้อเดียว กันน้ำ กันเหงื่อยาวนาน 4-6 ชั่วโมง ทาซ้ำได้ทุก 4 ชั่วโมง ไม่ต้องเติมบ่อย

ซึ่งทางหมอ Dr. V Square ได้ปรับให้กันแดดตัวนี้ ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้ว่าจะมีผิวบอบบางแพ้ง่าย สามารถใช้กันแดดสูตรอ่อนโยนนี้ได้ครับ ใครที่ไม่ทากันแดดเพราะกลัวเหนียวหน้า UV ABC Sunscreen ตัวนี้มีเนื้อบอบบาง เกลี่ยง่าย แห้งซึมเข้าผิวได้ไวครับ


ไม่ทากันแดด 1 วัน ส่งผลกระทบต่อผิวหรือไม่ ?

หากไม่ทากันแดด 1 วัน จะส่งผลกระทบต่อผิวครับ

แม้จะเป็นช่วงเวลาแค่เพียง 1 วัน ที่ไม่ทากันแดด แต่รังสี UVA และ UVB ในแสงแดด ทำร้ายผิวเราเรียบร้อย สังเกตได้ง่าย ๆ ว่าผิวเราจะหมองคล้ำขึ้นกว่าเดิม

หากจำเป็นต้องเผชิญแสงแดดจัดติดต่อกันมากกว่า 30 นาทีขึ้นไป ถ้าไม่ทากันแดดอาจส่งผลให้ผิวไหม้แดด ณ วันนั้น ๆ หรือหลังจากนั้น 1-2 วันได้ครับ โดยจะรู้สึกแสบร้อนผิว และผิวอาจจะเป็นขุยได้

หมอจึงแนะนำว่าควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน ทำให้เป็นกิจวัตรประจำวันเสมอ จึงจะดีที่สุดครับ


ทากันแดด กับ ไม่ทากันแดด ต่างกันหรือไม่ ?

การทาครีมกันแดด กับ ไม่ทากันแดด ในระยะยาวมีความแตกต่างกันชัดเจนครับ

ผิวที่ทาครีมกันแดดเพียงพอเป็นประจำ จะเกิดปัญหาผิวตามมาน้อยกว่า เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ และริ้วรอย ส่วนผิวที่ไม่ทากันแดดเลยเป็นเวลาหลายปี ผิวมักจะเกิดฝ้าแดด กระแดด และมีริ้วรอยจำนวนเยอะกว่าผิวที่ทากันแดดครับ เนื่องจากถูกรังสี UV ในแสงแดดทำร้ายผิวสะสม

เปรียบเทียบผิวฝาแฝดไม่ทากันแดด
Photo Credit: ASPS, PRSJournal.com

จากภาพข้างต้น คือ ฝาแฝดที่มีอายุ 69 ปีครับ ผิวฝาแฝด A (ด้านซ้าย) เผชิญแสงแดดมากกว่าฝาแฝด B (ด้านขวา) 19 ชั่วโมง/สัปดาห์ จึงสรุปได้ว่ารังสี UV ทำร้ายผิวในระยะยาวเมื่อไม่ทากันแดดได้มากกว่าที่คิด


สรุปเรื่องไม่ทากันแดด

การไม่ทากันแดด เป็นบ่อเกิดของการเกิดปัญหาผิวในระยะยาว ฉะนั้นแล้วหมอแนะนำว่าควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน พร้อมกับเลือกกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิว มีค่าการปกป้องเหมาะสม รวมไปถึงหมั่นเติมกันแดดซ้ำระหว่างวันอยู่เสมอ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวลงได้ครับ


แหล่งข้อมูลอ้างอิง