วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดด เช็กอย่างไร ? พร้อมวิธีสังเกตด้วยตัวเอง

วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดด

วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดด

การใช้งานผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดหน้า และ ครีมกันแดดตัว ล้วนมีวันหมดอายุครับ ไม่สามารถใช้ครีมกันแดดที่มีอายุเกิดกำหนดได้ เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาผิวตามมาได้

ในบทความนี้หมอได้สรุป วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดด พร้อมอันตรายจากการใช้ครีมกันแดดหมดอายุ ให้ได้ทราบกัน สามารถติดตามได้ผ่านบทความนี้เลยครับ

คลิกอ่านหัวข้อ วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดด


วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดด ดูยังไง เช็กตรงไหน ?

วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดด สามารถเช็กได้ 3 วิธี ดังนี้ครับ

1. เช็กจากเว็บไซต์ออนไลน์

ในปัจจุบันมีเว็บไซต์เช็กวันหมดอายุครีมกันแดดและสกินแคร์แบบออนไลน์ ที่นิยมใช้กันจะมี 2 เว็บไซต์ คือ Checkfresh.com และ Checkcosmetics.net

วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดดเว็บไซต์ Checkfresh
วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดดจากเว็บไซต์ Checkfresh.com
วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดดเว็บไซต์ Checkcosmetics
วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดดจากเว็บไซต์ Checkcosmetics

โดยวิธีการเช็กวันหมดอายุถือว่าง่ายมากครับ เพียงแค่เลือกชื่อแบรนด์สกินแคร์ + ใส่เลข Batch Number หรือ Batch Code เพียงเท่านี้ก็จะแสดงวันหมดอายุของครีมกันแดดแล้วครับ

แต่ข้อจำกัดของการเช็กแบบออนไลน์ คือ เราจะเช็กวันหมดอายุครีมกันแดดได้แค่บางแบรนด์เท่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์จากต่างประเทศ แบรนด์ไทยยังเช็กไม่ได้ครับ

2. เช็กจากสัญลักษณ์ PAO

PAO ย่อมาจาก Period After Opening คือ ระยะเวลาที่ใช้งานได้หลังจากเปิดผลิตภัณฑ์

ครีมกันแดดบางยี่ห้อจะมีการระบุ PAO เอาไว้ครับ เพื่อให้ผู้ใช้งานทราบถึงระยะเวลาที่ใช้ครีมกันแดดได้หลังเปิด โดย PAO จะเป็นตัวเลขกำกับบนรูปสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น

วิธีเช็กวันหมดอายุครีมกันแดดจากสัญลักษณ์ PAO
PAO (Period After Opening) คือ ระยะเวลาที่ใช้งานได้หลังจากเปิดผลิตภัณฑ์ 

ครีมกันแดดมี PAO = 12M หมายความว่า หลังจากเปิดใช้ครีมกันแดดตัวนี้ จะใช้งานต่อได้แค่ 12 เดือนเท่านั้น (นับจากวันที่เปิด) เกินจาก 12 เดือนไปไม่ควรนำมาทาผิวต่อครับ 

3. เช็กจาก MFG / MFD และ EXP / EXD 

คำว่า MFG / MFD ย่อมาจาก Manufacturing Date / Manufactured Date คือ วันที่ผลิต

ส่วนคำว่า EXP / EXD ย่อมาจาก Expiry Date / Expiration Date คือ วันหมดอายุ

วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดดจากวันผลิต
วิธีดูหมดอายุครีมกันแดดจาก MFG / MFD และ EXP / EXD

ซึ่งผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดส่วนใหญ่ มักจะระบุ MFG / MFD และ EXP / EXD เอาไว้เสมอ เพื่อให้ผู้ใช้งานทราบถึงระยะเวลาที่จะใช้ครีมกันแดดได้ครับ 


สัญญาณเตือนที่บอกว่าครีมกันแดดหมดอายุ ไม่ควรใช้ !

  • เนื้อครีมกันแดดเป็นก้อน หรือเป็นน้ำเหลว

ครีมกันแดดที่หมดอายุการใช้งาน เนื้อสัมผัสครีมจะผิดปกติ รูปลักษณ์ไม่เหมือนเดิม เช่น เนื้อครีมกันแดดจะมีความแข็งเป็นก้อน หรือเหลวขึ้นกว่าเดิม จนบางครั้งมีน้ำใส ๆ แยกชั้นแตกตัวออกมา

  • มีสีกันแดดค่อนข้างเป็นสีเหลือง

สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเมื่อครีมกันแดดหมดอายุ คือ เนื้อครีมกันแดดสีขาวจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเนื้อครีมสีเหลือง เพราะสารกันแดดที่บรรจุอยู่เริ่มเสื่อมสภาพลงครับ

  • มีกลิ่นแปลก ผิดเพี้ยนจากเดิม

กันแดดที่หมดอายุ กลิ่นครีมจะมีความผิดปกติไปจากเดิมครับ เช่น มีกลิ่นฉุนรุนแรงขึ้น หรือมีกลิ่นเหม็นจากสารแดด

หากพบว่าครีมกันแดดที่เราใช้มีกลิ่นผิดเพี้ยนจากเดิม แม้ว่าจะยังไม่ถึงวันหมดอายุครีมกันแดด หมอขอแนะนำว่าให้หยุดใช้กันแดดทันที เพื่อความปลอดภัยของผิว

สาเหตุที่ทำให้ครีมกันแดดหมดอายุ ก่อนวันหมดอายุการใช้งานจริง

ครีมกันแดดหมดอายุ หลังใช้งานกี่ปี ?

หลังจากเปิดใช้ครีมกันแดดไปแล้ว โดยเฉลี่ยผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดจะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี 

ซึ่งทาง FDA ได้มีการระบุเอาไว้ว่า ผลิตภัณฑ์กันแดดทุกยี่ห้อจะต้องมีการระบุวันหมดอายุที่ชัดเจน เพื่อความปลอดภัยในด้านการใช้งาน

โดยเราไม่ควรใช้ครีมกันแดดเกินระยะเวลาที่ระบุเอาไว้บนผลิตภัณฑ์ เพราะการใช้ครีมกันแดดหมดอายุ จะทำให้เกิดอันตรายกับผิวได้ครับ เช่น แพ้ครีมกันแดด


ใช้ครีมกันแดดหมดอายุ ได้หรือไม่ ? เสี่ยงอันตรายไหม ?

ไม่สามารถใช้ครีมกันแดดที่หมดอายุ เกินวันที่ระบุเอาไว้บนผลิตภัณฑ์ได้ครับ

เพราะกันแดดหมดอายุเป็นผลิตภัณฑ์ที่สารกันแดดเสื่อมสภาพ ทำให้เนื้อกันแดดเกิดความผิดปกติ เช่น มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เนื้อครีมแข็งหรือเหลวเป็นน้ำ ฯลฯ และยังช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ในแสงแดดไม่ได้อีกด้วยครับ

ซึ่งหากนำครีมกันแดดหมดอายุมาใช้ทาผิว จะทำให้เกิดปัญหาผิวตามมาดังนี้

  • อาการแพ้ครีมกันแดด
  • รู้สึกระคายเคืองผิว
  • มีตุ่ม มีผื่นขึ้น
  • มีอาการคันบริเวณผิว

คลิกอ่านเพิ่มเติม : รังสีอัลตราไวโอเลต คืออะไร มีกี่ประเภท อันตรายต่อผิวอย่างไรบ้าง ?

การดูวันหมดอายุครีมกันแดด
ควรหมั่นเช็กวันหมดอายุครีมกันแดดเป็นประจำเสมอ

สาเหตุที่ทำให้ครีมกันแดดหมดอายุ ก่อนวันหมดอายุการใช้งานจริง

การที่ครีมกันแดดหมดอายุ ก่อนวันหมดอายุตามที่ระบุเอาไว้ เป็นเพราะว่า มีการเก็บรักษาครีมกันแดดผิดวิธีครับ เช่น เก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง สาเหตุเหล่านี้ส่งผลให้สารกันแดดเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดหมดอายุไวขึ้น

ทางที่ดีหมอแนะนำว่า ควรเก็บรักษาครีมกันแดดให้ถูกวิธี โดยทำตามคำแนะนำที่ระบุไว้บนผลิตภัณฑ์เสมอครับ เพื่อให้ใช้ครีมกันแดดได้นานตามระยะเวลาที่ระบุเอาไว้ แถมยังช่วยคงประสิทธิภาพกันแดดได้เป็นอย่างดี


อันตรายจากการใช้ครีมกันแดดหมดอายุ มีอะไรบ้าง ?

การใช้ครีมกันแดดหมดอายุ อาจทำให้เกิดอันตรายต่อผิวดังนี้ครับ

  • ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ไม่ได้
  • รู้สึกได้ถึงความระคายเคืองผิว
  • มีอาการคันบริเวณผิวหนัง
  • แพ้ครีมกันแดด จากสารกันแดดที่เสื่อมสภาพ
  • ผิวไหม้แดด
  • เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง (Skin Cancer)

วิธีเก็บรักษาครีมกันแดดหลังเปิดใช้งาน ให้คงประสิทธิภาพสูงสุด

การเก็บรักษาครีมกันแดดอย่างถูกวิธี คือ เก็บผลิตภัณฑ์กันแดดไว้ในที่ปลอดแสง ไม่โดนแสงแดดส่องถึง เพราะอุณหภูมิสูงในแสงแดดจะส่งผลต่อสารกันแดดครับ การเก็บครีมกันแดดไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิสูง จะทำให้อายุครีมกันแดดหมดอายุไวขึ้น และยังส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานครับ

ต่อไปนี้คือแนวทางการเก็บรักษาครีมกันแดดที่หมอ Dr. V Square อยากแนะนำ : 

  • เก็บครีมกันแดดไว้ในที่มืด ที่ไม่โดนแสงแดดส่องถึง เช่น ในลิ้นขัก
  • หลีกเลี่ยงการวางครีมกันแดดไว้บริเวณริมหน้าต่าง
  • หลีกเลี่ยงการวางครีมกันแดดไว้บนรถ 

สรุปเรื่องวิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดด

ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดทาผิว หมอแนะนำว่าเราควรเช็กดูวันหมดอายุครีมกันแดดก่อนเสมอ ว่ามีระยะเวลาการใช้งานอยู่ได้นานแค่ไหน เพื่อที่จะได้ใช้ครีมกันแดดทาผิวอย่างปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายกับผิว เพราะการใช้ครีมกันแดดหมดอายุ จะส่งผลต่อการเกิดปัญหาผิวรูปแบบต่าง ๆ ครับ