
เป็นกระแดดรักษายังไง ?
เป็นกระแดดรักษายังไงให้จางลง ? ต้องเริ่มดูแลจากตรงไหน ? จะกลับมามีผิวกระจ่างใสได้ไหม ?
กระแดด เป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะผู้ที่โดนแดดสะสมเป็นเวลานาน ซึ่งถ้าปล่อยไว้โดยไม่ รักษากระแดดอย่างถูกวิธี อาจมีสีเข้มขึ้นเรื่อย ๆ
ในบทความนี้หมอได้สรุปมาให้แล้วครับว่า วิธีรักษากระแดด มีอะไรบ้าง ? ทั้งวิธีแบบเร่งด่วนและแบบธรรมชาติ พร้อมแนะนำส่วนผสมในสกินแคร์ที่ควรใช้ รวมถึงเคล็ดลับการดูแลเพื่อป้องกันไม่ให้กระแดดเกิดขึ้นอีก
คลิกอ่านหัวข้อ รักษากระแดด
กระแดดคืออะไร ? ทำความเข้าใจก่อนเริ่มรักษา
ก่อนจะเริ่มรักษากระแดดให้เห็นผล หมออยากให้เข้าใจก่อนครับว่าปัญหานี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และมีลักษณะแบบไหน

กระแดด (Solar Lentigo) คือ กระชนิดหนึ่งที่เกิดจากการสัมผัสรังสีอัลตราไวโอเลต (โดยเฉพาะรังสี UVA) เป็นเวลานาน ทำให้ผิวผลิตเม็ดสีเมลานินมากผิดปกติ ส่งผลให้เห็นเป็นรอยสีน้ำตาลหรือดำเป็นปื้น คล้ายหยดหมึกบนผิว ไม่มีอาการนูนหรือเจ็บแต่อย่างใดครับ
กระแดดมักขึ้นบริเวณผิวที่โดนแดดเป็นประจำ เช่น โหนกแก้ม จมูก คอ แขน มือ ขา ซึ่งหากไม่ได้รักษาอย่างเหมาะสม หรือยังขาดการปกป้องผิวจากแสงแดด กระแดดมีโอกาสเพิ่มจำนวน กระจายวงกว้างขึ้น และสีเข้มขึ้นเรื่อย ๆ ครับ
วิธีรักษากระแดดแบบเร่งด่วน ด้วยหัตถการคลินิก
ถ้าอยากรักษากระแดดให้เห็นผลเร็ว หัตถการต่าง ๆ ถือเป็นทางเลือกหนึ่งครับ โดยควรให้แพทย์ที่มีประสบการณ์ เป็นผู้ประเมินปัญหาและสภาพผิวก่อนทำ
1. รักษากระแดดด้วยการทำเลเซอร์

การทำเลเซอร์รักษากระแดด เป็นวิธีที่มุ่งจัดการเม็ดสีโดยตรง พลังงานเลเซอร์จะยิงลงไปจับเม็ดสีที่เป็นกระแดด ทำให้เม็ดสีแตกตัวเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วร่างกายค่อย ๆ กำจัดออกตามธรรมชาติ เหมาะกับเคสที่กระแดดชัด เข้ม หรือเป็นมานาน ส่วนใหญ่นิยมใช้เครื่องเลเซอร์ เช่น Q-Switched, Intense Pulsed Light (IPL) หรือ Pico Laser
ข้อดี : เห็นผลค่อนข้างเร็ว กระแดดจางลงได้ชัดเจนเมื่อทำต่อเนื่อง
ข้อเสีย : มักต้องทำหลายครั้งต่อเนื่อง อาจมีรอยแดงหรือสะเก็ดชั่วคราว ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
2. รักษากระแดดด้วยการผลัดเซลล์ผิว
การผลัดเซลล์ผิวเป็นการใช้สารกลุ่มกรดผลไม้ (AHA & BHA) หรือกรดอ่อน ๆ ทาทั่วใบหน้า เพื่อช่วยให้เซลล์ผิวชั้นบนที่มีเม็ดสีสะสมอยู่หลุดลอกออกเร็วขึ้นครับ ผิวที่เผยออกมาจะดูใส เนียนขึ้น เหมาะกับเคสที่กระแดดไม่ลึกมาก โดยต้องทำในคลินิกและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการลอกผิวแรงเกินไปครับ
ข้อดี : ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน กระแดดดูจางลง ผิวโดยรวมดูกระจ่างใสขึ้น
ข้อเสีย : อาจมีอาการระคายเคือง ผิวลอก แห้ง ตึง หรือแสบ ต้องดูแลผิวหลังทำอย่างเคร่งครัด
3. รักษากระแดดด้วยการฉีดเมโส (Mesotherapy)

การฉีดเมโสลดกระแดด (Meso Melasma) เป็นการฉีดวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ และสารที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใสเข้าไปในชั้นผิวโดยตรง ช่วยฟื้นฟูผิวที่โดนแดดทำร้าย ลดความหมองคล้ำ และเสริมให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น เหมาะกับคนที่หน้าเป็นกระแดดร่วมกับปัญหาหน้าโทรม ผิวแห้ง หรือขาดน้ำ ต้องการให้หน้าดูใสและดูสุขภาพดีขึ้น
ข้อดี : บำรุงผิวลึกจากภายใน ผิวดูฉ่ำใสขึ้น กระแดดและรอยหมองคล้ำค่อย ๆ จางลง
ข้อเสีย : ต้องทำติดต่อกันหลายครั้ง มีรอยเข็มเล็กน้อยหลังทำ
วิธีรักษากระแดดแบบธรรมชาติ ด้วยตัวเองที่บ้าน
สำหรับคนที่ต้องการดูแลผิวเพิ่มเติม หรือยังไม่สะดวกเข้าทำหัตถการ วิธีธรรมชาติก็สามารถช่วยเสริมให้ผิวค่อย ๆ กระจ่างใสขึ้นได้ครับ
1. รักษากระแดดด้วยการทานอาหารบำรุงผิว
การทานอาหารที่มีวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เบอร์รี่ ผลไม้ตระกูลส้ม ผักใบเขียว และถั่วต่าง ๆ มีส่วนช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว ลดความเสียหายที่เกิดจากแสงแดด และชะลอการเกิดเม็ดสีผิดปกติ ควรทำควบคู่กับการป้องกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการรักษา
ข้อดี : ปลอดภัย ดูแลสุขภาพและผิวไปพร้อมกัน ทำต่อเนื่องได้ในชีวิตประจำวัน
ข้อเสีย : เห็นผลช้า ไม่สามารถลดกระแดดเข้มได้อย่างชัดเจน
2. รักษากระแดดด้วยการพอกหน้าสมุนไพร

การพอกหน้าด้วยสมุนไพร เช่น ขมิ้นชันผสมนมสดหรือน้ำผึ้ง หรือสูตรมะขามเปียกผสมน้ำผึ้ง ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และลดเลือนรอยหมองคล้ำจากกระแดดได้ระดับหนึ่ง ก่อนพอกควรทำความสะอาดผิวหน้าให้เรียบร้อย และไม่ควรทำเกิน 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์ หากมีอาการแสบ คัน หรือผิวระคายเคืองควรหยุดใช้ทันที
ข้อดี : หาวัตถุดิบง่าย ค่าใช้จ่ายน้อย ทำเองที่บ้านได้
ข้อเสีย : ผลลัพธ์ไม่ชัดเจน เสี่ยงต่อการแพ้หรือระคายเคือง
3. รักษากระแดดด้วยการทายาลดกระ
ยาทาลดกระมักมีสารที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสี เช่น Hydroquinone, เรตินอล หรือกรดวิตามินเอ ซึ่งช่วยยับยั้งการผลิตเมลานินและเร่งการผลัดเซลล์ผิว ทำให้กระแดดค่อย ๆ จางลงเมื่อใช้ต่อเนื่อง แต่ยากลุ่มนี้ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น หากการใช้ผิดวิธีหรือความเข้มข้นสูงเกินไปอาจทำให้ผิวระคายเคือง สีผิวไม่สม่ำเสมอ หรือเกิดความหมองคล้ำมากขึ้นได้ครับ
ข้อดี : ออกฤทธิ์ตรงจุด ช่วยลดกระแดดได้เมื่อใช้ถูกวิธี
ข้อเสีย : เสี่ยงผิวบางหรือระคายเคือง หากใช้เองโดยไม่มีการประเมินจากแพทย์
4. รักษากระแดดด้วยสกินแคร์ที่มีส่วนผสมช่วยลดกระ

การใช้สกินแคร์ที่มีสารออกฤทธิ์ช่วยลดเม็ดสี เช่น Niacinamide, Vitamin C, Alpha Arbutin, Tranexamic Acid หรือ Licorice Extract ถือเป็นแนวทางการดูแลผิวที่ทำได้ทุกวัน และช่วยเสริมการรักษากระแดดจากวิธีอื่น ๆ ได้ดีครับ สารกลุ่มนี้จะช่วยค่อย ๆ ปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้น ลดความหมองคล้ำ และทำให้รอยกระแดดดูจางลงในระดับหนึ่ง เมื่อใช้ต่อเนื่องควบคู่กับการกันแดดที่ดี
ข้อดี : ใช้ง่าย สามารถใช้ได้ทุกวัน ช่วยรักษากระแดดและบำรุงผิวไปพร้อมกัน
ข้อเสีย : ต้องใช้อย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิว
เลือกครีมรักษากระแดดอย่างไร ? แนะนำอ่านเพิ่มเติมในหัวข้อ
เป็นกระแดด ควรใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมอะไรบ้าง ?
ก่อนจะเลือกใช้สกินแคร์สำหรับคนที่มีกระแดด ควรมองหาส่วนผสมที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสี ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้น ได้แก่

- Retinol (เรตินอล) : เป็นอนุพันธุ์ Vitamin A ช่วยลดเลือนริ้วรอย ฝ้า กระ และจุดด่างดำ พร้อมผลัดเซลล์ผิวที่มีเม็ดสีสะสมให้จางลง เหมาะใช้ทาผิวช่วงกลางคืน
- Arbutin : ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน ช่วยให้ฝ้า กระ และจุดด่างดำจางลงได้ ใช้ได้ทุกสภาพผิว และมีความอ่อนโยนกว่า Hydroquinone
- Vitamin C : มีส่วนช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใส และลดจุดดำจากกระ ฝ้า และจุดด่างดำ
- Licorice Extract (สารสกัดจากชะเอมเทศ) : ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้นด้วยการกระจายเม็ดสีเมลานิน ลดความหมองคล้ำจากแดด พร้อมคุณสมบัติต้านการอักเสบและอนุมูลอิสระ
- Niacinamide (วิตามิน B3) : ช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอ ลดความหมองคล้ำ และลดการผลิตเม็ดสีส่วนเกินที่ทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ
- N-Acetyl Glucosamine (NAG) : สามารถใช้ร่วมกับ Niacinamide ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส ลดรอยจุดด่างดำต่าง ๆ และกระตุ้นการสร้าง Hyaluronic Acid ให้ผิวชุ่มชื้นตามธรรมชาติ
- Alpha Hydroxy Acid (AHA) : มักสกัดมาจากผลไม้ ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่ตายแล้ว ให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวปกติ
- Beta Hydroxy Acid (BHA) : ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ลดการอุดตันรูขุมขน ต้านการอักเสบ เหมาะกับผู้ที่มีผิวมัน มีปัญหาสิวและรูขุมขนกว้าง
- Lipo Hydroxy Acid (LHA) : เป็นอนุพันธ์ของ BHA ที่มีความระคายเคืองผิวน้อยกว่า ช่วยผลัดผิว คุมความมันส่วนเกิน และลดการอุดตันนรูขุมขน เหมาะกับผิวมัน สิวอุดตัน ระคายเคืองผิวง่าย
- Polyhydroxy Acid (PHA) : ช่วยผลัดเซลล์ผิวใกล้เคียง AHA แต่มีความระคายเคืองต่ำกว่า เหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่ายเป็นส่วนใหญ่
เมราลิส เซรั่ม
Dr. V Square Melaris Serum

เซรั่มเข้มข้น Dr. V Square Melaris Serum ใช้เทคโนโลยี Niosomal ช่วยให้สารสำคัญซึมลึกขึ้นกว่าเดิมถึง 332% ตรงเข้าลดเลือนเม็ดสีจากกระแดด ด้วยสารไวท์เทนนิ่งหลักอย่าง Tranexamic Acid, Niacinamide, Arbutin, Glutathione และสารสกัด Mandarin จากญี่ปุ่น ช่วยยับยั้งเมลานินและฟื้นผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
เมื่อใช้ควบคู่กับการทาครีมกันแดดและดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้กระแดดค่อย ๆ จางลงและผิวกลับมาแข็งแรงแลดูสุขภาพดีเร็วขึ้น
“ป้องกันผิวจากแสงแดด” หัวใจหลักในการรักษากระแดดให้ได้ผล
การป้องกันผิวจากแสงแดด เป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในการรักษากระแดด หากผิวยังคงโดนแดดซ้ำ แม้จะทำหัตถการหรือใช้สกินแคร์ดีแค่ไหน ผลลัพธ์ก็อาจไม่ชัดเจนครับ แนะนำเลือกครีมกันแดดที่ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB โดยควรมีค่า SPF 40+ และ PA+++ ขึ้นไป

โดยปริมาณการใช้ที่เหมาะสมคือ 2 ข้อนิ้วมือ สำหรับทาใบหน้าและลำคอ และควรทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง หากต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานครับ
ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า ยูวี เอ-บี-ซี ซันสกรีน ครีม
Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream

Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream เป็นครีมกันแดดแบบ Triple Protection ที่ช่วยป้องกันทั้งรังสี UVA, UVB, แสงสีฟ้า และรังสีอินฟราเรดได้ครบถ้วน พร้อมค่า SPF 40 PA+++ เหมาะสำหรับใช้ทุกวัน เนื้อครีมบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่อุดตันผิว และยังมีสาร Soothing Cooling ช่วยลดอาการระคายเคืองหลังโดนแดด จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับดูแลผิวหลังการรักษากระแดด
รักษากระแดด เห็นผลเมื่อไหร่ ?
การรักษากระแดด จะเห็นผลเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยครับ เช่น ระดับความเข้มของกระแดด สภาพผิว วิธีที่ใช้รักษา และการดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง โดยปกติ
- หากรักษาด้วยหัตถการในคลินิก เช่น เลเซอร์หรือเมโส มักเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 2-4 สัปดาห์ และต้องทำต่อเนื่องอย่างน้อย 3-5 ครั้ง เพื่อให้สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น
- หากดูแลด้วยวิธีธรรมชาติหรือใช้สกินแคร์อย่างเดียว จะใช้เวลานานกว่า โดยอาจต้องดูแลต่อเนื่อง ประมาณ 1-3 เดือน จึงเริ่มเห็นผิวค่อย ๆ กระจ่างใสขึ้น
ทั้งนี้ หากยังโดนแดดซ้ำ หรือไม่ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้การรักษาเห็นผลช้าลง หรือกระแดดกลับมาเข้มกว่าเดิมได้ครับ
สิ่งที่ไม่แนะนำให้ทำเมื่อรักษากระแดด
ในช่วงที่กำลังรักษากระแดด ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่าง เพราะอาจทำให้กระเข้มขึ้น หรือทำให้ผลการรักษาล่าช้าได้ครับ สิ่งที่หมอไม่แนะนำให้ทำ มีดังนี้

- ตากแดด หรือออกกลางแจ้งโดยไม่ป้องกันผิวจากแสงแดด
- สครับผิวแรง หรือใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่ระคายเคือง
- ใช้ครีมกัดผิวหรือมีกรดเข้มข้น โดยไม่มีคำแนะนำจากแพทย์
- นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ผิวฟื้นฟูตัวเองได้ไม่ดี
- ทำความสะอาดผิวไม่ถูกวิธี ส่งผลให้สกินแคร์ซึมได้ไม่เต็มที่
- เลือกผลิตภัณฑ์ตามรีวิวอย่างเดียว โดยไม่ดูความเหมาะสมกับสภาพผิวตัวเอง
เคล็ดลับดูแลผิวหลังรักษากระแดด
หลังการรักษากระแดด ผิวจะมีความบอบบางมากกว่าปกติ จึงต้องดูแลอย่างระมัดระวังเพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่และช่วยให้ผิวฟื้นฟูเร็วขึ้น หมอแนะนำดังนี้ครับ
- ทำความสะอาดและบำรุงผิวอย่างอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการขัดหรือถูแรง
- ทาครีมกันแดดทุกวัน เลือก SPF 40+ PA+++ ขึ้นไป และทาซ้ำเมื่อต้องอยู่กลางแจ้ง
- หลีกเลี่ยงแดดจัดช่วงเวลา 10.00-16.00 น.
- สวมหมวก เสื้อแขนยาว แว่นกันแดด หรือใช้ร่มกันแดด เมื่อต้องออกกลางแจ้ง
- ใช้สกินแคร์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวและเสริม Skin Barrier เช่น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรือเซรั่ม
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวไวต่อแสง โดยเฉพาะหากไม่ได้อยู่ในการดูแลของแพทย์
- พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก และทานอาหารที่ช่วยบำรุงผิว เช่น ผัก ผลไม้ และอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
ซอฟต์ คลีนซิ่ง มูส
Dr. V Square Soft Cleansing Mousse

หลังรักษากระแดด ผิวต้องการการทำความสะอาดที่อ่อนโยนและไม่ทำให้ผิวเสียสมดุล แนะนำ Dr. V Square Soft Cleansing Mousse โฟมล้างหน้าสูตรมูส เนื้อนุ่ม ล้างสิ่งสกปรกได้หมดจดโดยไม่ทำให้ผิวแห้ง ด้วยสารสกัดจาก Japanese Plum Extract และข้าวสาลี ช่วยปลอบประโลมผิว พร้อมเตรียมผิวให้รับการบำรุงขั้นตอนถัดไปได้อย่างเต็มที่
ไฮยา บูสท์ ครีม
Dr. V Square Hya-Boost Cream

Dr. V Square Hya-Boost Cream เป็นครีมบำรุงที่ช่วยเสริมความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกด้วย Sodium Hyaluronate ควบคู่สารสกัดจากพืชธรรมชาติ 7 ชนิด ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำยาวนานสูงสุด 72 ชั่วโมง ฟื้นฟูเกราะผิว ลดอาการแห้งตึงและระคายเคือง สูตรปราศจากสเตียรอยด์และแอลกอฮอล์ ใช้ได้ทุกวันเช้า-เย็น ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม แข็งแรง และพร้อมรับการบำรุงหรือทาครีมกันแดดต่อไป
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรักษากระแดด
กระแดดรักษายังไงให้หายเร็วที่สุด ?
การใช้สกินแคร์ที่ช่วยลดกระร่วมกับการทาครีมกันแดดเป็นประจำ ถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการรักษากระแดด และหากทำควบคู่กับหัตถการในคลินิก เช่น เลเซอร์หรือเมโส จะช่วยให้เห็นผลได้รวดเร็วและชัดเจนมากขึ้น
ถ้าต้องออกแดดทุกวันจะรักษากระแดดให้หายได้ไหม ?
สามารถรักษากระแดดให้จางลงได้ครับ แต่ต้องป้องกันแดดอย่างเข้มงวด เช่น ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ สวมหมวก เสื้อแขนยาว และหลบแดดช่วงเวลาที่แรงที่สุด
กระแดดเกิดที่ร่างกาย รักษาเหมือนผิวหน้าไหม ?
กระแดดที่มือ/แขน หรือกระแดดที่ขา สามารถรักษาได้เหมือนผิวหน้า แต่บางจุดอาจใช้เวลานานกว่า และต้องปกป้องผิวจากแดดอย่างจริงจัง
สรุป แนวทางรักษากระแดดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
การรักษากระแดดให้เห็นผล ต้องเริ่มจากการดูแลผิวให้ดี ใช้สกินแคร์ที่เหมาะสม และป้องกันผิวจากแสงแดดอย่างสม่ำเสมอ จากนั้นเลือกวิธีรักษาที่เหมาะกับสภาพผิวและทำต่อเนื่องอย่างถูกวิธี จะช่วยให้กระแดดค่อย ๆ จางลง และผิวกลับมาดูกระจ่างใสได้ครับ


