
Skin Cycling
Skin Cycling คือแนวทางการดูแลผิวที่ได้รับความนิยมมากขึ้นจากกระแสบน TikTok ซึ่งแม้จะเป็นเทรนด์ในโลกโซเชียล แต่แนวคิดนี้มีพื้นฐานจากหลักการเวชศาสตร์ผิวหนัง ที่เน้นการหมุนเวียนผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในแต่ละคืน เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้สารออกฤทธิ์แรงติดต่อกัน ช่วยลดความเสี่ยงของการระคายเคืองสะสม ให้ผิวมีจังหวะในการผลัดเซลล์ รับสารบำรุง และพักฟื้นได้อย่างเหมาะสม
สำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นดูแลผิวหรือมีข้อสงสัยว่า Skin Cycling คืออะไร ? ดีไหม ? เหมาะกับใคร ? ควร เริ่มทำยังไง ? รวมถึงคำถามที่พบบ่อย เช่น ต้องทำกี่เดือนถึงเห็นผล ? หรือ ช่วยปรับสภาพผิวได้อย่างไร ? บทความนี้จะอธิบายอย่างครบถ้วน พร้อมแนะแนวทางเริ่มต้นแบบเข้าใจง่าย ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงกับทุกสภาพผิวครับ
คลิกอ่านหัวข้อ Skin Cycling
Skin Cycling คืออะไร ?

Skin Cycling คือ วิธีการดูแลผิวที่แบ่งการใช้สกินแคร์ออกเป็นรอบ ๆ โดยจัดตารางให้ผิวได้ผลัดเซลล์ บำรุง และพักฟื้นอย่างเป็นระบบในแต่ละคืน จุดประสงค์คือ ลดการระคายเคืองจากการใช้ผลิตภัณฑ์หลายตัวพร้อมกัน และช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นในระยะยาว
ซึ่งแนวคิดนี้ถูกคิดค้นโดย Dr. Whitney Bowe แพทย์ผิวหนังจากสหรัฐอเมริกา ที่เชื่อว่าผิวควรได้รับการดูแลอย่างชาญฉลาด ไม่ใช่แค่ใช้ผลิตภัณฑ์เยอะ ๆ เท่านั้น
การทำ Skin Cycling ช่วยอะไรบ้าง ?
การทำ Skin Cycling ไม่ใช่แค่การจัดตาราง Skincare Routine ให้เป็นระบบเท่านั้นครับ แต่ยังช่วยดูแลผิว ทั้งเรื่องสมดุลของผิว ความแข็งแรง และลดโอกาสระคายเคืองจากสารบำรุงที่เข้มข้นมากเกินไป ซึ่งประโยชน์โดยรวมของการทำ Skin Cycling มีดังนี้

- ช่วยลดการระคายเคือง : เพราะไม่ได้ใช้สารออกฤทธิ์แรงทุกวัน ผิวจึงมีเวลาพักฟื้น ไม่เกิดอาการแสบ แดง หรือลอกง่าย
- ช่วยเสริมประสิทธิภาพของสกินแคร์ : เมื่อผิวได้รับการผลัดเซลล์อย่างเหมาะสม ก็สามารถดูดซึมสารบำรุงได้ดีขึ้นในคืนถัดไป
- ช่วยให้ผิวแข็งแรงและสมดุลขึ้น : การเว้นช่วงให้ผิวได้พัก ส่งผลให้เกราะป้องกันผิวทำงานได้ดี ลดการสูญเสียน้ำ และลดการอักเสบ
- ช่วยลดปัญหาสิวอุดตันและผิวหมองคล้ำ : การผลัดเซลล์ผิวเป็นประจำแบบไม่รุนแรง ช่วยลดการอุดตันรูขุมขนและทำให้ผิวดูสดใส
- ช่วยให้ใช้สกินแคร์ได้อย่างมีวินัยและปลอดภัย : เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้ AHA/BHA/Retinol เพราะไม่ต้องใช้ทุกคืน แต่มีแผนการชัดเจนในการดูแลผิว
- ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย : เพราะใช้ผลิตภัณฑ์น้อยลง แต่ได้ผลลัพธ์ที่ดี
Skin Cycling เหมาะกับใคร ?
การทำ Skin Cycling เหมาะกับทุกคนที่อยากดูแลผิวอย่างมีระบบและปลอดภัยขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิว ดังนี้

- เริ่มมีริ้วรอย ตีนกา หรือร่องลึก
- มีผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
- มีรอยสิว ฝ้า กระ และจุดด่างดำ
- ผู้ที่ใช้สกินแคร์มาหลายตัวแต่ยังไม่เห็นผล
- มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มใช้ AHA, BHA หรือเรตินอล
อย่างไรก็ตาม เทรนด์ Skin Cycling อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่ายมากเป็นพิเศษ และผู้ที่อยู่ในช่วงรักษาสิวอักเสบหรือสิวระยะรุนแรง
เพราะในช่วงที่ผิวอ่อนแอ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารผลัดเซลล์ผิวหรือเรตินอล อาจทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง แห้งลอก หรือทำให้สิวลุกลามง่าย แนะนำให้เลี่ยงและควรรอให้ผิวแข็งแรงก่อน แล้วจึงค่อยเริ่มทำ Skin Cycling ครับ
วิธีทำ Skin Cycling ทำยังไง ?
การทำ Skin Cycling คือ การหมุนเวียนการใช้สกินแคร์อย่างมีระบบในแต่ละคืน เพื่อให้ผิวได้ผลัดเซลล์ รับสารบำรุง และมีเวลาพักผ่อนอย่างเหมาะสม โดยมือใหม่สามารถเริ่มจากรูทีน 3 วัน ดังนี้
Day 1 : วันแห่งการผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน

เป็นวันที่ใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA หรือ BHA เพื่อช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและลดการอุดตันของรูขุมขน และยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย C.acnes เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอุดตัน ผิวหมองคล้ำ หรือผิวไม่เรียบเนียน
แนะนำให้ใช้คู่กับคลีนเซอร์อ่อนโยน มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน และทาครีมกันแดดในตอนเช้าเพื่อป้องกันผิวไวแสง
Day 2 : วันแห่งการกระตุ้นการผลัดผิวและเสริมคอลลาเจน

วันนี้จะใช้สารบำรุงประเภท วิตามินเอ (Retinol) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดสิวเสี้ยน กระชับรูขุมขน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยฟื้นฟูผิวในระยะยาวและลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ พร้อมให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
เหมาะกับผู้ที่เริ่มใช้เรตินอลใหม่ ๆ โดยควรเริ่มจากความเข้มข้นต่ำและไม่ใช้ร่วมกับสารผลัดเซลล์ผิวอื่นในวันเดียวกัน
Day 3 : วันแห่งการพักผิว เติมความชุ่มชื้น

วันนี้งดใช้สาร active ingredient ทุกชนิด และเน้นการฟื้นฟูผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เช่น มอยส์เจอร์ไรเซอร์เข้มข้น และ คลีนเซอร์ที่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
โดยเป้าหมายของวันนี้ คือการให้ผิวได้พักจากการกระตุ้น และเสริมเกราะป้องกันผิวให้กลับมาแข็งแรง
และอย่าลืมทาครีมกันแดดในตอนเช้าเพื่อปกป้องผิวจากแสง UV หรือมลภาวะ
เมื่อทำครบ 3 วันแล้ว จึงค่อยวนกลับไปเริ่ม Day 1 ใหม่อีกครั้งครับ
ตัวอย่างรูทีนสกินแคร์สำหรับทำ Skin Cycling
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น Dr. V Square มีตัวอย่างการจัดรูทีนดูแลผิวแบบ Skin Cycling 3 คืน พร้อมแนะนำลำดับการใช้ผลิตภัณฑ์ในแต่ละวัน ดังนี้ครับ
Skin Cycling คืนที่ 1
ตอนเช้า
- ล้างหน้าด้วย Dr. V Square Soft Cleansing Mousse มูสล้างหน้าสูตรอ่อนโยน เนื้อนุ่มละเอียด ช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึกโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง เหมาะสำหรับผิวเป็นสิวและผิวบอบบาง
- ลงโทนเนอร์หรือเอสเซนส์สูตรปลอบประโลม
- บำรุงผิวด้วยเซรั่มเน้นลดการระคายเคือง
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์สูตรบางเบา
- ทาครีมกันแดด
ตอนกลางคืน
- ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ที่อ่อนโยนต่อผิว
- ใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ AHA หรือ BHA
- บำรุงผิวด้วย Dr. V Square Melaris Serum เซรั่มเนื้อบางเบาที่ช่วยลดการอักเสบ ปลอบประโลมผิวหลังการผลัดเซลล์
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์สูตรไม่อุดตันรูขุมขน
แนะนำสกินแคร์ Day 1
ซอฟต์ คลีนซิ่ง มูส
Dr. V Square Soft Cleansing Mousse

Dr. V Square Soft Cleansing Mousse โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ที่ช่วยทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ด้วยสารสกัดจาก Japanese Plum Extract และ ข้าวสาลี ที่ช่วยลดการระคายเคือง พร้อมเติมความชุ่มชื้นให้ผิวตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการดูแลผิว
เนื้อโฟมเป็นมูสเนียนนุ่มละเอียด ช่วยลดการเสียดสีผิวขณะล้างหน้า ปราศจากสบู่ น้ำหอม และแอลกอฮอล์ จึงเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวบอบบาง ผิวเป็นสิวง่าย หรือแม้แต่ผิวที่กำลังอักเสบก็สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยในทุกวัน
ยูวี เอ-บี-ซี ซันสกรีน ครีม
Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream

Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream ครีมกันแดดสูตร Triple Protection ที่ปกป้องผิวจากแสงแดดแบบครบวงจรทั้งการสะท้อน กระเจิง และดูดซับรังสี พร้อมป้องกันครบทั้ง UVA, UVB, แสงสีฟ้า (Blue Light), อินฟราเรด (IR) และ แสงที่มองเห็น (Visible Light) ด้วยเนื้อครีมนำเข้าจากเยอรมนี เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ
เสริมด้วยสาร Soothing Cooling จากเกาหลี ที่ช่วยลดอุณหภูมิผิวและปลอบประโลมหลังเจอแดด กันน้ำได้นานถึง 4 ชั่วโมง และยังเป็นสูตร Reef Friendly ไม่ทำลายปะการัง ใช้ได้กับทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่าย ให้การปกป้องมั่นใจทุกกิจกรรมทั้งในชีวิตประจำวันและกลางแจ้ง
Skin Cycling คืนที่ 2
ตอนเช้า
- ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ที่อ่อนโยน
- ลงโทนเนอร์หรือเอสเซนส์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์
- ใช้เซรั่มเพิ่มความชุ่มชื้นหรือสารต้านอนุมูลอิสระ
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์สูตรบางเบา
- ป้องกันผิวด้วย Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream ครีมกันแดดสูตรอ่อนโยน เหมาะกับทุกสภาพผิว
ตอนกลางคืน
- ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์
- หากใช้เรตินอล ให้ลงเรตินอลในขั้นตอนนี้ (เริ่มจากความเข้มข้นต่ำ)
- หากไม่ได้ใช้เรตินอล ให้ใช้เซรั่มฟื้นฟูผิวสูตรอ่อนโยนแทน
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อเข้มข้นเพื่อป้องกันการแห้งลอก
แนะนำสกินแคร์ Day 2
เมราลิส เซรั่ม
Dr. V Square Melaris Serum

Dr. V Square Melaris Serum เซรั่มเวชสำอางสูตรเข้มข้น ที่ใช้เทคโนโลยี Niosomal Technology ช่วยนำพาสารสำคัญลงลึกสู่ผิวมากขึ้นถึง 332% เห็นผลไวภายใน 7–14 วัน พร้อมลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมออย่างเป็นธรรมชาติ
ด้วยสารสำคัญอย่าง Tranexamic Acid, Arbutin, Niacinamide, Glutathione และสารสกัดจากส้มแมนดาริน ช่วยเสริมความกระจ่างใสอย่างอ่อนโยน โดยไม่มี Hydroquinone และ Steroid เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวแพ้ง่าย ใช้ต่อเนื่องได้อย่างปลอดภัย
Skin Cycling คืนที่ 3
ตอนเช้า
- ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน
- ใช้โทนเนอร์หรือเอสเซนส์ปลอบประโลมผิว
- บำรุงผิวด้วย Dr. V Square Hya-Boost Cream ครีมเติมน้ำให้ผิวที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มฟู และแข็งแรง
- ทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวในขั้นตอนสุดท้าย
ตอนกลางคืน
- ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ที่อ่อนโยน
- ลงเซรั่มหรือเอสเซนส์เน้นให้ความชุ่มชื้น (ไม่มี active)
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์สูตรเข้มข้นเพื่อฟื้นฟูผิว
- งดใช้สารผลัดเซลล์ผิวหรือเรตินอลในคืนนี้
แนะนำสกินแคร์ Day 3
ไฮยา บูสท์ ครีม
Dr. V Square Hya-Boost Cream

Dr. V Square Hya-Boost Cream ครีมบำรุงผิวที่ออกแบบมาเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวยาวนานถึง 72 ชั่วโมง ด้วยสารสกัดจากพืชธรรมชาติ 7 ชนิด ช่วยลดการอักเสบ ฟื้นฟูผิวที่บอบบาง และเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง รองรับทุกสภาพผิวที่ต้องเผชิญแสงแดด ฝุ่นควัน และมลภาวะ
มีส่วนผสมของ Sodium Hyaluronate ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของ Hyaluronic Acid ที่ช่วยกักเก็บน้ำลึกถึงชั้นผิว เติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มฟู สดใส ลดโอกาสการเกิดสิว และช่วยคืนสมดุลให้ผิวสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ สูตรนี้พัฒนาเป็นเวชสำอางโดยเฉพาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ใช้ได้ทุกวันอย่างปลอดภัย
Skin Cycling ต้องทำนานแค่ไหน ?
การทำ Skin Cycling ไม่มีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนครับ สามารถทำเป็น Skincare Routine ประจำวันได้เลย หรือควรทำอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ (ประมาณ 7-10 รอบ) เพื่อให้เห็นผลชัดเจน เพราะวงจรการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติใช้เวลาประมาณ 28 วัน
หลังจากทำได้สักระยะ สามารถปรับรูปแบบให้เหมาะกับสภาพผิวได้ เช่น อาจเพิ่มคืนแห่งการฟื้นฟูเป็น 2-3 คืน หากรู้สึกว่าผิวยังต้องการการพักฟื้น หรืออาจลดเหลือเพียง 1 คืน หากผิวแข็งแรงดีแล้ว
ทำ Skin Cycling กี่วันเห็นผล ?

โดยทั่วไป สามารถเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวได้หลังจากทำ ประมาณ 2 รอบ หรือ 8 วัน ผิวจะรู้สึกเนียนนุ่มขึ้น ชุ่มชื้นขึ้น และปัญหาการอุดตันมักลดลงอย่างชัดเจน
แต่ถ้าต้องการฟื้นฟูผิวจากปัญหาเฉพาะ เช่น ริ้วรอย จุดด่างดำ หรือผิวหมองคล้ำ อาจต้องใช้เวลาประมาณ 4–6 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลที่ชัดเจนขึ้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความต่อเนื่องในการดูแล หากทำ Skin Cycling อย่างถูกวิธี ผิวก็จะยิ่งแข็งแรงขึ้นและตอบสนองต่อการบำรุงได้ดีขึ้น ในระยะยาวครับ
ควรทำ Skin Cycling ดีไหม ?
การทำ Skin Cycling ถือเป็นแนวทางดูแลผิวที่ให้ผลลัพธ์ดีในหลายด้าน ช่วยให้ใช้ผลิตภัณฑ์น้อยลง แต่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น ลดโอกาสเกิดการระคายเคืองจากการใช้สาร active ติดต่อกันทุกวัน
นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และสามารถปรับให้เหมาะกับทุกสภาพผิวได้ง่าย เมื่อทำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นในระยะยาว สอดคล้องกับแนวคิดของ Dr. Whitney Bowe ที่ว่า “Smarter Skincare, Not More” ใช้ให้น้อย แต่ใช้ให้ถูกจังหวะ ก็เพียงพอแล้วสำหรับผิวที่ดีครับ
สรุป Skin Cycling รูทีนการใช้สกินแคร์ให้ผิวแข็งแรง
Skin Cycling เป็นแนวทางการดูแลผิวที่ช่วยให้ผิวได้รับการพักฟื้นอย่างเหมาะสม ลดการระคายเคืองจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารออกฤทธิ์ติดต่อกัน โดยหมุนเวียนการใช้สกินแคร์ในแต่ละคืนตามลำดับที่เหมาะสม สามารถเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 1–2 สัปดาห์ และชัดเจนมากขึ้นเมื่อทำต่อเนื่อง 4–6 สัปดาห์
สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้น Dr. V Square มีผลิตภัณฑ์พื้นฐานที่จำเป็นต่อผิว เช่น คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน, เซรั่มที่มีสารช่วยลดเลือนจุดด่างดำ, ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิค แอซิด และ ครีมกันแดดที่ปกป้องผิวได้อย่างครอบคลุม เพื่อให้การทำ Skin Cycling มีประสิทธิภาพและปลอดภัยกับทุกสภาพผิวครับ