วิธีป้องกันแดด
เมื่อต้องเผชิญแสงแดดจัด จำเป็นต้องหาวิธีป้องกันแดด เพื่อปกป้องผิวหน้าและผิวกายครับ เพราะรังสี UV ในแสงแดด เป็นต้นเหตุของการเกิดปัญหาผิว เช่น ผิวไหม้แดด ฝ้า กระ จุดด่างดำ ฯลฯ
วิธีป้องกันแดด มีอะไรบ้าง ? ปกป้องผิวจากแสงแดด ไม่ให้โดนแดดเผา ด้วยวิธีไหนง่ายที่สุด หมอสรุปข้อมูลให้ในบทความนี้ครับ
คลิกอ่านหัวข้อ วิธีป้องกันแดด
แสงแดดทำร้ายผิวอย่างไร ทำไมต้องปกป้องผิว ?
แสงแดดที่เราเห็นกันในชีวิตประจำวัน ประกอบไปด้วยรังสี UV และรังสีอื่น ๆ ซึ่งล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อผิวครับ
คลื่นรังสีในแสงแดด ที่ส่งผลต่อผิวมีดังนี้
- รังสี UVA
รังสี UVA มีคลื่นความยาวสูงสุด พบได้มากกว่ารังสีประเภทอื่นถึง 75% สามารถทะลุวัตถุที่เป็นกระจก หรือเสื้อผ้าได้ แล้วทำร้ายผิวได้ถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis)
ในระยะยาว ส่งผลให้ผิวเกิดริ้วรอยก่อนวัย เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ฯลฯ
- รังสี UVB
ผิวที่สัมผัสรังสี UVB เป็นระยะเวลานาน มีโอกาสเกิดผิวไหม้แดดบริเวณผิวหนังได้ครับ เพราะรังสี UVB จะทำร้ายผิวชั้นนอก หรือผิวหนังชั้นกำพร้า (Epidermis) ทำให้ผิวบริเวณที่โดนแดดเปลี่ยนสภาพ จนมีอาการผิวแดง ผิวไหม้ รู้สึกแสบร้อนผิว
บางรายที่มีอาการรุนแรง อาจถึงขั้นมีตุ่มน้ำใสเกิดขึ้นบริเวณผิวได้
- รังสี UVC
ตามหลักแล้ว รังสี UVC ไม่สามารถผ่านชั้นบรรยากาศมาได้ครับ แต่ในปัจจุบันมักเจอรังสี UVC จากการนำรังสียูวีซีมาประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ เช่น การฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย ฯลฯ
หากผิวสัมผัสรังสี UVC โดยปราศจากการป้องกันดีพอ จะส่งผลให้ผิวและดวงตาเกิดอาการระคายเคืองได้
คลิกอ่านเพิ่มเติม : รังสี UVC คืออะไร ? มีคุณสมบัติอย่างไร ? อันตรายต่อผิวเหมือน UVA UVB ไหม ?
- แสงสีฟ้า (Blue light)
ในแสงแดดพบว่ามีปริมาณแสงสีฟ้าประมาณ 1 ใน 3 ครับ ซึ่งพบได้บ่อยกว่าแสงสีฟ้าที่มาจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เมื่อผิวสัมผัสกับแสงสีฟ้าโดยตรงแบบไม่มีการป้องกัน ในระยะยาวจะทำให้ผิวแก่ก่อนวัย เพิ่มโอกาสการเกิดริ้วรอยได้ครับ
- อินฟราเรด (Infrared)
แม้ว่ารังสีอินฟราเรดจะมีค่าพลังงานน้อย แต่กลับให้พลังงานความร้อนสูงครับ มักพบรังสีอินฟราเรดได้บ่อยจากหลอดไฟ และการเผชิญแสงแดดจัด โดยผิวที่สัมผัสกับรังสีอินฟราเรดเป็นเวลานานหลายปี มีโอกาสที่ผิวจะเกิดริ้วรอยฝังลึกครับ
อันตรายจากการไม่ปกป้องผิวจากแสงแดด
ผิวที่ไม่ได้ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน หรือทากันแดดก่อนออกแดด อันตรายจากแสงแดด สามารถทำร้ายผิวได้ดังนี้
- เกิดฝ้าแดด กระแดด จุดด่างดำ
- กระตุ้นการเกิดริ้วรอยลึก ทำให้ผิวแก่ เหี่ยวย่นก่อนวัย
- เสี่ยงผิวไหม้แดด ผิวแดง มีอาการปวดแสบปวดร้อนผิว
- เร่งการผลิตน้ำมันในต่อผลิตไขมัน จนเป็นสาเหตุของการเกิดสิวอุดตัน
- กระตุ้นสิวอุดตันให้กลายเป็นสิวอักเสบ
- มีโอกาสเป็นโรคที่เกิดจากแสงแดด เช่น มะเร็งผิวหนัง ผิวไวต่อแสง จอประสาทต่อเสื่อม ต้อลม ต้อเนื้อ ฯลฯ
- ผิวหน้าหมองคล้ำ ผิวหน้าแลดูโทรม ไม่มีราศี
วิธีป้องกันแดด ปกป้องผิวจากการโดนแดดเผา
1. ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันก่อนออกจากบ้าน
วิธีป้องกันผิวจากแสงแดด ที่ได้รับความนิยมสุด คือ การทาครีมกันแดดผิวหน้า ผิวกายครับ โดยการทากันแดดเป็นประจำทุกวัน จะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ในแสงแดดได้ดี ทำให้ลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ
โดยผลิตภัณฑ์กันแดดที่ใช้ ควรมีคุณสมบัติดังนี้
- มีค่า SPF 30 ขึ้นไป มีค่า PA 3+ ขึ้นไป และไม่ควรมีค่า SPF 100 เพราะเสี่ยงเกิดอาการระคายเคืองผิว
- กันน้ำ กันเหงื่อ รองรับทุกการทำกิจกรรม
- มีส่วนผสมช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- มีสารสกัด หรือส่วนผสมปลอบประโลมผิวขณะออกแดด เช่น ว่านหางจระเข้ หรือ Soothing Cooling
- ปกป้องผิวจากรังสีในแสงแดดได้ทุกคลื่นรังสี ครอบคลุมรังสี UVA, UVB, UVC, Blue light และ Infrared
- เป็นกันแดดประเภท Hybrid Sunscreen หรือ Physical Sunscreen
- มีเนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย แห้งซึมไว
- ไม่มีสารอันตราย ที่กระตุ้นให้เกิดการระคายเคือง หรืออาการแพ้
- สามารถทาซ้ำระหว่างวันได้
นอกจากใช้ครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิวแล้ว ยังต้องรู้วิธีทากันแดดที่ถูกต้องด้วยครับ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของครีมกันแดด เพราะหากทากันแดดผิดวิธี จะทำให้ประสิทธิภาพการปกป้องผิวน้อยลงตามไปด้วย
ครีมกันแดดทาหน้า ปกป้องผิวจากแสงแดด
DR. V SQUARE UV ABC SUNSCREEN CREAM SPF40 PA+++
ครีมกันแดดทาหน้า Dr. V Square UV ABC Sunscreen Cream มีค่าการปกป้อง SPF 40 PA+++ ครอบคลุมทุกคลื่นรังสี ไม่ว่าจะเป็น UVB, UVB, แสงสีฟ้า และอินฟราเรด เนื้อสัมผัสเกลี่ยง่าย แห้งซึมไว มีความบางเบา เพราะเป็นกันแดดประเภท Hybrid Sunscreen ที่มีสารกันแดดคงตัวสูง นำเข้าจากประเทศเยอรมัน
โดยกันแดดสูตรนี้ของทาง Dr. V Square สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว แม้ว่าจะมีผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ ไม่มีสารอันตราย ใช้แล้วไม่ก่อให้เกิดสิวหรือการระคายเคือง มาพร้อมสารสกัด Soothing Cooling นำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ช่วยลดอาการแสบผิวในขณะที่ออกแดด มีคุณสมบัติกันน้ำ กันเหงื่อ สามารถทาซ้ำระหว่างวันได้ทุก 4-6 ชั่วโมง
2. ทาครีมกันแดดซ้ำระหว่างวันเสมอ
วิธีป้องกันแดดในข้อนี้ หลายคนมักชอบมองข้ามครับ เพราะคิดว่าแค่ทากันแดดครั้งเดียวก็เพียงพอ
แต่ความเป็นจริงแล้ว ควรเติมกันแดดซ้ำระหว่างวันเสมอครับ เพราะตั้งแต่เช้าที่ออกจากบ้าน เรามักเผชิญมลภาวะมากมาย เมื่อผิวหน้าสัมผัสเหงื่อหรือน้ำฝน จะทำให้ประสิทธิภาพการปกป้องผิวดรอปลงไปด้วย
ป้องกันผิวจากแดดด้วยการทากันแดดซ้ำ ควรทำดังนี้
- อยู่ในที่ร่ม ไม่ได้ออกแดด ควรเติมกันแดดซ้ำทุก 5-6 ชั่วโมง
- จำเป็นต้องออกแดดช่วงระหว่างวัน ควรเติมกันแดดทุก 4-6 ชั่วโมง
- ทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรเติมกันแดดทุก 2-3 ชั่วโมง
3. แต่งกายปกป้องผิวให้มิดชิด
เมื่อต้องเผชิญแสงแดดจัด การสวมใส่เสื้อผ้าปกป้องผิว เป็นวิธีป้องกันแดดที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลต หรือ รังสี UV ได้ระดับนึงครับ ไม่สามารถบล็อครังสี UV ได้ทั้งหมด ผ้าชนิดไหนก็ตาม ที่มองเห็นแสงแดดทะลุผ่านผ้าได้ เท่ากับว่ารังสี UV ก็สามารถทะลุผ่านผ้าได้เช่นกัน
วิธีป้องกันแดดด้วยการสวมใส่เสื้อผ้า ควรแต่งกายดังนี้
- สวมใส่แขนยาว กางเกงขายาว หรือกระโปรงยาว
- ใส่เสื้อผ้าที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสี UV
- ใส่เสื้อผ้าสีเข้มแทนเสื้อผ้าสีอ่อน เพราะปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดีกว่า
- ใส่เสื้อผ้าที่มีลักษณะการทอที่แน่น เพราะผ้ามีความหนามากกว่า
- ใส่เสื้อผ้าที่มีความแห้งสนิท เลี่ยงการใส่เสื้อผ้าเปียก หรือมีความชื้น
4. สวมใส่หมวกกันแดดปีกกว้าง
วิธีปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการใส่หมวกปีกกว้าง 2-3 นิ้ว ถือว่าเพียงพอกับการปกป้องผิวจากแสงแดดครับ เพราะสามารถปกป้องผิวบริเวณใบหน้า และศีรษะได้ดี โดยควรเน้นเป็นหมวกสีเข้ม ที่สะท้อนแสงไม่ได้ครับ
ส่วนการใช้หมวกแก๊ปจะไม่สามารถปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ทั้งหมด เพราะหมวกแก๊ปปกป้องผิวได้แค่บริเวณด้านหน้าและศีรษะเท่านั้น ไม่ครอบคลุมบริเวณคอ หรือใบหู ซึ่งเป็นจุดที่มักพบโรคมะเร็งผิวหนังได้บ่อย
ในกรณีนี้สามารถใช้ผ้าเช็ดหน้าวางไว้ใต้หมวกแก็ป แล้วสวมหมวกทับตามได้ครับ จะทำให้ผิวบริเวณคอและหูได้รับการปกป้องเพิ่ม
5. ใส่แว่นตากันแดดป้องกันรังสี UV
การสวมใส่แว่นตากันแดด เป็นวิธีป้องกันแดดที่ช่วยปกป้องผิวบริเวณรอบดวงตาจากรังสี UV การสัมผัสแสงแดดติดต่อกันเป็นเวลา โดยไม่ใส่แว่นกันแดด จะเพิ่มโอกาสทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับดวงตาได้ครับ
ก่อนซื้อแว่นกันแดดทุกครั้ง จำเป็นต้องเช็กฉลากแว่นกันแดด ว่ามีระบุปริมาณป้องกันรังสี UV หรือไม่ โดยควรเลือกแว่นที่มีฉลากระบุว่ากันยูวีได้ 90% – 100% และไม่ควรซื้อแว่นกันแดดที่ไม่มีการระบุข้อมูลส่วนนี้ครับ
วิธีการสังเกตแว่นกันแดด ว่ากันรังสี UV แค่ไหน ?
- ฉลากระบุว่า “UV 400 Protection” หรือ “Meets ANSI UV Requirements” = กันรังสี UV ได้อย่างน้อย 99%
- ฉลากระบุว่า “Cosmetic” = กันรังสี UV ได้ประมาณ 99%
การเลือกซื้อแว่นกันแดด UV ให้ดูที่ฉลากเป็นหลักครับ ไม่ว่าแว่นสีเข้ม หรือสีอ่อน จะไม่ส่งผลต่อการป้องกันรังสี UV เพราะกันรังสียูวีได้ทั้งคู่
6. หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดจัดระหว่างวัน
แม้ว่าประโยชน์ของแสงแดดอุดมไปด้วยวิตามิน D แต่จะมีเฉพาะแค่แดดช่วงเช้ากับช่วงเย็นเท่านั้นค่ะ
หากเป็นไปได้ควรเลี่ยงการเจอแดดช่วงเวลา 10.00 น. – 16.00 น. เพราะเป็นช่วงที่มีความเข้มข้นของรังสี UV สูงสุด ส่งผลให้มีโอกาสเกิดอาการผิวไหม้แดด และปัญหาผิวสะสมได้ครับ
แต่หากจำเป็นต้องออกแดดช่วงเวลาดังกล่าว วิธีป้องกันแดดที่ดีที่สุด คือ การทากันแดด แต่งกายให้มิดชิด รวมถึงสวมใส่อุปกรณ์อื่น ๆ เสมอครับ
7. ใช้ร่มกันแดดเสมอเมื่อออกไปข้างนอก
นอกจากปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดแล้ว หากต้องออกไปข้างนอกช่วงกลางวัน สามารถกางร่มกันแดดเพิ่มได้ครับ ซึ่งเป็นวิธีป้องกันแดดที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ได้เป็นอย่างดี
โดยควรใช้ร่มกันแดดที่สามารถกันรังสี UV ได้ ซึ่งร่มกัน UV ส่วนใหญ่จะมีการฉลากระบุค่า UPF หรือ UV Protection Factor ว่ากันแดดได้เท่าไหร่
ซึ่งค่า UPF แต่ละระดับ มีความหมายดังนี้
Protection Category | UPF Range | UPF Values Allowed on Labels | %UV Blocked |
---|---|---|---|
Good UV Protection | 15 – 24 | 15 และ 20 | 93.3% – 95.8% |
Very Good UV Protection | 25 – 39 | 25, 30 และ 35 | 96.0% – 97.4% |
Excellent UV Protection | 40 – 50+ | 40, 45, 50 และ 50+ | 97.5% – 98.0% |
8. ทาลิปที่มีค่า SPF ปกป้องริมฝีปาก
การทาครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวหน้า ผิวกายจากรังสี UV ผิวบริเวณริมฝีปาก ก็ควรทาลิปกันแดดเช่นกันครับ เพราะบริเวณใบหน้ามักเผชิญแสงแดดเป็นประจำ ทำให้ริมฝีปากสัมผัสรังสี UV ไปด้วย
วิธีป้องกันแดดบริเวณริมฝีปากที่ดี คือ ควรเลือกลิปกันแดด หรือลิปสติกที่มีค่า SPF อย่างน้อย 15 ทาทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน หรือในช่วงระหว่างวันที่กำลังจะออกไปข้างนอก นอกจากช่วยให้ริมฝีปากนุ่ม ชุ่มชื้นแล้ว ยังทำให้ไม่ดำคล้ำจากการถูกรังสี UV ทำร้ายครับ
9. ใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารกันแดด
ในวันที่เร่งรีบ ต้องแต่งหน้าแบบเร่งด่วน สามารถใช้รองพื้นผสมกันแดด หรือคุชชันรองพื้นที่มีค่า SPF ทาได้เลยหลังทาครีมบำรุงครับ ซึ่งจะช่วยลดเวลาการแต่งหน้าลงได้
แต่ข้อควรระวังของวิธีป้องกันแดดในข้อนี้ คือ ควรเลือกรองพื้นผสมกันแดด หรือ คุชชัน ที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเสมอ เพราะจะปกป้องผิวจากรังสี UV หลังออกจากบ้านได้ครับ นอกจากนี้ควรทำ Double Cleansing ทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอุดตัน จนเกิดปัญหาสิวตามมา
10. ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
การทานอาหารที่มีประโยชน์ และมีสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ เป็นวิธีป้องกันแดดที่ช่วยบำรุงจากภายในสู่ภายนอกครับ ผิวที่สัมผัสแสงแดดจัดจะสูญเสียคอลลาเจน และความชุ่มชื้นในผิว ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวแบบต่าง ๆ
โดยสารต้านอนุมูลอิสระมักจะอยู่ในรูปแบบวิตามินและแร่ธาตุ เมื่อร่างกายทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็จะช่วยบำรุงผิวและฟื้นฟูผิว ที่ได้รับผลกระทบจากรังสี UV ในแสงแดดได้ ช่วยลดโอกาสการเกิดผิวแก่ก่อนวัยครับ
วิธีป้องกันแดดที่ง่ายที่สุด คือวิธีไหน ?
วิธีป้องกันแดดที่ง่ายที่สุด คือ การทาครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า – ผิวกาย เป็นประจำทุกวัน ก่อนออกจากบ้านครับ เพราะในผลิตภัณฑ์กันแดดส่วนใหญ่ จะปกป้องผิวจากรังสี UVA / UVB และในบางยี่ห้อสามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้ทุกคลื่นรังสีอย่างครอบคลุม
การทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน จะช่วยป้องกันการเกิดปัญหาผิวได้ นอกจากนี้หากจำเป็นต้องสัมผัสแสงแดดจัดช่วงกลางวัน เราสามารถเติมกันแดดระหว่างวันซ้ำได้ทันทีครับ จะช่วยลดโอกาสการเกิดผิวไหม้แดด รวมถึงผิวหมองคล้ำได้
คลิกอ่านเพิ่มเติม : 10 วิธีแก้ หน้าหมองคล้ำ บอกลาหน้าไม่มีราศี เพิ่มความกระจ่างใส
สรุปเรื่องวิธีป้องกันแดดจากรังสี UV
วิธีป้องกันแดด สามารถทำได้หลายวิธีครับ โดยวิธีปกป้องผิวจากแสงแดดที่ง่ายสุด คือ การใช้ครีมกันแดดทาผิวหน้า ผิวกาย เพราะช่วยป้องกันรังสี UV ทุกประเภท รวมถึงรังสีอื่น ๆ นอกจากนี้กันแดดบางยี่ห้อ ยังช่วยปกป้องผิว บำรุงผิว และลดการเกิดปัญหาผิวภายในตัว
สำหรับใครที่ต้องออกแดดช่วงกลางวัน ก็สามารถหยิบกันแดดมาเติมซ้ำระหว่างวันได้ทุกครั้งที่ต้องการ ช่วยให้เผชิญแสงแดดได้อย่างมั่นใจ พร้อมลุยทุกสถานการณ์ครับ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- The American Cancer Society medical and editorial content team. (June 26, 2024). How to Protect Your Skin from UV Rays. American Cancer Society. https://www.cancer.org/cancer/risk-prevention/sun-and-uv/uv-protection.html
- UK HealthCare . (May 20, 2021). 6 simple ways to protect your skin in the sun. UK Health Care. https://ukhealthcare.uky.edu/wellness-community/blog/6-simple-ways-protect-your-skin-sun